ดร.ปฐมสุดา อินทุประภา

น้ำพริกเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการบริโภคสูงภายในประเทศ และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพในการเป็นสินค้าส่งออกอีกด้วย ดังนั้นการผลิตน้ำพริกเพื่อจำน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงควรต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ  และจากการยึดแนวทางการทำงานตามศาสตร์พระราชาในเรื่องของการมีส่วนร่วมนั้น ทำให้ศูนย์เชี่ยวชาญอาหารสุขภาพของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย     (วว.) ได้เข้าไปรับฟังปัญหาการผลิตน้ำพริกเพื่อจำน่ายจากกลุ่มประกอบการ จนทราบถึงปัญหาของการผลิตนั้นเกี่ยวเนื่องกับด้านต่างๆ ได้แก่  ด้านวัตถุดิบ คือ วัตถุดิบมีคุณภาพไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากผู้ขายเป็นรายย่อยหลายแหล่งจึงทำให้วัตถุดิบที่ได้มีคุณภาพต่างกัน หรือการตรวจพบสารตกค้างในวัตถุดิบ ด้านกระบวนการผลิต ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ในด้านกระบวน  การผลิตที่ดี ไม่ทราบถึงมาตรฐานการผลิต หรือไม่ทราบถึงสาเหตุของการปนเปื้อน และส่วนใหญ่จะผลิตโดยใช้แรงงานคน เนื่องจากเครื่องจักรในการผลิตมีต้นทุนสูง รวมทั้งยังประสบปัญหาในด้านบรรจุภัณฑ์ เช่น  บรรจุภัณฑ์มักเปลี่ยนสีเมื่อสัมผัสอากาศ การแตก หักเสียหายในระหว่างการขนส่ง รวมทั้งเกิดการมักเกิดการปนเปื้อนในระหว่าขนส่ง   ด้านการรับรองคุณภาพ ผู้ประกอบการมักขาดความรู้ในเรื่องมาตรฐานคุณภาพ เช่น มผช., มอก., ISO ฯลฯ และค่าใช้จ่ายในด้านคุณภาพส่วนใหญ่มีราคาสูง จึงทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้

จากปัญหาด้านต่างๆ ที่พบจึงทำให้สรุปได้ว่า ความปลอดภัยในการผลิตน้ำพริก สามารถแยกได้เป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี้ คือ

  1. ความสะอาดของวัตถุดิบ ควรรับจากแหล่งผลิตที่ปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี จากนั้นต้องมีการล้างทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและสารปนเปื้อนออก และมีการตัดแต่งหรือเล็มส่วนที่เสียหาย เน่า หรือขึ้นราออก สำหรับน้ำที่ใช้ล้างทำความสะอาดวัตถุดิบควรใช้เฉพาะน้ำที่บริโภคได้เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนที่มีผลต่อความปลอดภัยของอาหาร
  2. ความสะอาดของเครื่องมือและสถานที่ในการผลิต เครื่องมือที่ใช้ในการผลิตควรมีความทนทานและสามารถเคลื่อนย้ายหรือถอดออกได้เอื้อต่อการซ่อมบำรุง การทำ ความสะอาด การฆ่าเชื้อ และการตรวจสอบ นอกจากนี้จะต้องมีการทำความสะอาดและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย ส่วนสถานที่การผลิต ควรทำจากวัสดุกันน้ำ ผนังและฝากั้น ควรมีผิวหน้าเรียบ สูงพอเหมาะต่อการปฏิบัติงาน พื้น มีความลาดเอียงเพียงพอต่อการระบายน้ำ และทำความสะอาด เพดานและอุปกรณ์ที่ยึดติดอยู่ด้านบน ควรอยู่ในสภาพที่ช่วยลดการเกาะของสิ่งสกปรก ฝุ่น จากกระบวนการผลิต หน้าต่างควรใช้วัสดุที่ทำความสะอาดได้ง่าย สามารถลดการเกาะของสิ่งสกปรก ควรติดมุ้งลวดที่ถอดออกและล้างทำาความสะอาดได้ง่าย เพื่อป้องกันสัตว์และแมลงเข้ามาในสถานที่ผลิต ส่วนพื้นผิวบริเวณที่ต้องสัมผัสกับวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์โดยตรง ควรอยู่ในสภาพดี ทนทานและทำความสะอาดได้ง่าย มีการบำรุงรักษาและฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ และต้องทำจากวัสดุที่เรียบ ไม่ดูดซับน้ำ และไม่ทำปฏิกิริยากับพริกหรือพริกป่น
  3. ความสะอาดของกระบวนการผลิต ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะผลิตโดยใช้แรงงานคน เนื่องจากเครื่องจักรในการผลิตมีต้นทุนสูง ดังนั้นวัตถุดิบ ส่วนผสมและภาชนะบรรจุต่างๆ ต้องมีการควมคุมและจัดเก็บอย่างเหมาะสมในระหว่างการผลิต เพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนในระหว่างการผลิต และในระหว่างการผลิตต้องมั่นใจว่ามีสัตว์หรือแมลงเข้ามารบกวน นอกจากนี้จะต้องมีการใชัวัตถุปนเปื้อนต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
  4. ความสะอาดของผู้ผลิต ผู้ผลิตต้องมีการล้างทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต ไม่ไว้เล็บยาวและควรสวมถุงมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อในระหว่างการผลิต ต้องสวมหมวกเพื่อป้องกันเส้นผมร่วงไปปนเปื้อนกับผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าที่สวมใส่ต้องมีความสะอาดและกระชับ เพื่อความปลอดภัยในระหว่างการกระบวนการผลิต ล้างมือทุกครั้งก่อนปฏิบัติงาน หลังการใช้สุขา และเมื่อมือสกปรก
  5. ความสะอาดของภาชนะบรรจุ วัสดุที่ใช้ต้องผ่านการฆ่าเชื้อและอยู่ในสภาพ ดี ไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำพริก และมีความเหมาะสม โดยสามารถเก็บรักษาอาหารภายใต้สภาพการเก็บรักษาสะอาดที่ระบุไว้ สามารถป้องกันผลิตภัณฑ์จากการปนเปื้อนและความชื้นได้ ไม่แตกหักเสียหายขณะขนส่ง มีการแสดงฉลากอย่างเหมาะสม

 

ภาพประกอบจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Coconut_water

   มะพร้าวเป็นพืชยืนต้นในวงศ์ปาล์ม (ARECACEAE)  มีชื่อสามัญว่า coconut มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Cocos nucifera L.  มะพร้าวนั้นนิยมปลูกอยู่แทบจะทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพราะมันถือได้ว่าเป็นพืชสารพัดประโยชน์ เนื่องจากส่วนต่างๆ ของมันสามารถนำมาทำประโยชน์ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการนำผลและน้ำมาทำอาหารคาวหวาน หรือนำลำต้น กะลา ก้าน และใบ มาทำเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือของใช้ต่างๆ  แต่ ความสารพัดประโยชน์ของมะพร้าวยังหมดแค่นั้น  เพราะน้ำมะพร้าวจากผลมะพร้าวแก่  ยังสามารถนำมาใช้เป็นอาหารเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียบีทีไอ (Bacillus thuringiensis subsp. israelensis: BTI) ซึ่งเป็นศัตรูทางธรรมชาติของลูกน้ำยุงโดยเฉพาะ แต่ไม่เป็นพิษภัยต่อคนและสัตว์อื่นๆ

   การทดลองนำน้ำมะพร้าวมาเพาะเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียบีทีไอนี้ ถูกทดลองโดยนักวิทยาศาสตร์หญิงชาวเปรูชื่อ พาลมิลา เวนโตซิลลา (Palmira Ventosilla) เธอได้ทดลองนำวัตถุดิบพื้นเมืองต่างๆ ของเปรูมาทำการเพาะเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียบีทีไอแบบง่ายๆ  โดยได้ทดลองกับกล้วย สับปะรด  ธัญพืชต่างๆ รวมถึงมะพร้าว และในที่สุดก็พบว่า มะพร้าวแก่สามารถใช้เพาะเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียบีทีไอได้ดีที่สุด โดยเธอได้ทดลองนำเชื้อแบคทีเรียบีทีไอ 100 ตัว ฉีดเข้าไปในผลมะพร้าว ผลปรากฏว่าภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน ปริมาณเชื้อแบคทีเรียบีทีไอได้เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าที่อุณหภูมิห้องปกติ เธอค้น พบว่า ในน้ำมะพร้าวมีสารอาหารที่ดีต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบีทีไอ  และผลมะพร้าวเองก็ทำหน้าที่เสมือนถังบ่มเพาะเชื้อชั้นเลิศ จากการผลทดลองนี้ พาลิมาจึงได้ นำแบคทีเรียที่เพาะในผลมะพร้าวไปทดลองฆ่าลูกน้ำยุงในบ่อ ซึ่งมันก็ผลที่ได้น่าพอใจ อย่างยิ่ง เพราะเชื้อที่เพาะในผลมะพร้าวสามารถฆ่าลูกน้ำยุงได้หมดภายในครั้งเดียว อีกทั้งยังสามารถควบคุมการเกิดใหม่ของลูกน้ำยุงได้นานถึง  45 วันอีกด้วย จากผลการทดลองที่ประสบความสำเร็จดังกล่าว พาลมิลาจึงได้ทำการประดิษฐ์ชุดกำจัดลูกน้ำยุงพร้อมใช้จากผลมะพร้าวขึ้น ซึ่งวิธีใช้ก็ไม่ยาก เพียงแค่ผ่าผลมะพร้าวและโยนลงบ่อ 2-3 ลูก ก็สามารถควบคุมปริมาณยุงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์อื่นๆ  ในบ่อ

 แม้นักวิทยาศาสตร์หญิงท่านนี้จะไม่ใช่คนไทย แต่การทดลองของเธอก็นับเป็นตัวอย่างที่ดีในการประยุกต์ใช้วัสดุของใช้จากธรรมชาติมาแก้ไขปัญหาแบบประหยัดไม่ยุ่งยาก และมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็ตรงกับศาสตร์พระราชาในเรื่องของการทำให้ง่ายนั่นเอง

อ้างอิงจาก หนังสือเทคโนโลยีสำหรับชาวชนบท

📌ติดตามเรื่องสาระความรู้เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์📦ที่เหมาะสมกับอาหารประเภทต่างๆ 🥡🍯🍿🍦🍫🍟ได้ที่นี่👇👇👇ค่ะ

📌การผลิตอาหาร🥙🥗🥩ที่ดีตามหลัก GMP ต้องทำอย่างไรติดตามได้จาก Clip👇👇นี้ค่ะ

📌เทคโนโลยีการยืดอายุอาหาร 🥗🍯🥩🍟 มีอะไรบ้างนะ 🤔หาคำตอบได้จากคลิปด้านล่างนี้เลยค่ะ 👇👇👇