เรียบเรียงโดย :สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ลักษณะ : นกแก้วขนาดเล็ก ลำตัวยาว 14 ซม. หางสั้น ขนสีเขียวทั้งตัว ยกเว้นปาก สะโพก และขนคลุมหางซึ่งเป็นสีแดง มีสีน้ำเงินแต้มที่คอ ตัวเมียปากสีซีดกว่าตัวผู้ และ ไม่มีสีน้ำเงินแต้มที่คอ

เขตแพร่กระจาย : อินเดีย จีน พม่า ไทย เวียตนาม หมู่เกาะอันดามันและชวา

ที่อยู่อาศัย : ป่าดิบแล้ง

อุปนิสัย : ชอบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ 5-10 ตัว บนต้นไม้ที่มีดอกมีผล กินผลไม้ น้ำหวานดอกไม้ พืชไร่ เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง พริก ผสมพันธุ์ระหว่างเดือนมกราคม- มีนาคม ทำรังในโพรงไม้ วางไข่ครั้งละ 3-4 ฟอง

สถานภาพ : นกประจำถิ่น พบน้อย

Characteristics : Size 14 cm. A diminutive green parrot with very short tail. Red patches are present on its bill, rump and upper tail coverts. A male has a distinctive blue neck patch; while a female lacks this neck patch and having paler red bill than that of the male.

Distribution : India, China, Myanmar, Thailand, Vietnam, the Andamans and Java.

Habitat : Dry everygreen forest.

Habit : Keeps in small flock of 5-10 individuals that congregating on fruiting trees. Diet consists of wild fruits, nectar, and seeds of field crops such as maize, sorghum and chilli. Breeds between January-March, they nest in a tree cavity, in which a clutch of 3-4 eggs will be laid.

Status : A less frequently seen resident.

เรียบเรียงโดย :สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ลักษณะ :

ลำตัวยาว 27 ซม. ขนสีเขียวสด โคนปากสีแดง ปลายปากดูอวบอูมกว่านกเปล้าชนิดอื่น ตัวผู้ต่างจากตัวเมีย คือมีโคนปีกและหลังสีแดงเข้ม ขนคลุมใต้โคนหาง สีส้ม ส่วนนกตัวเมียมีสีเขียวตลอดทั้งตัว

เขตแพร่กระจาย :

เนปาล จีน ไหหลำ หมู่เกาะซุนดา ฟิลิปปินส์ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่อยู่อาศัย :

ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่ารุ่น

อุปนิสัย :

ชอบอยู่เป็นฝูงบนต้นไม้ กินผลไม้ ลูกไม้ ผสมพันธุ์ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม วางไข่ครั้งละ 2 ฟอง ใช้เวลาฟักไข่ 14 วัน

สถานภาพ :

นกประจำถิ่นที่พบบ่อย เคยพบมากกว่า 300 ตัว บนต้นไทรสุกในป่าดิบแล้งในเดือนกันยายน-ตุลาคม

Characteristics :

Size 27 cm. A plump-looking leafy green pigeon with bill tip much swollen than those of other similar pigeons, also tinted red at base. A male is readily recognized by possessing maroon back and shoulders, and orange-brown under tail coverts; while a female is green throughout the body.

Distribution :

Nepal, China, Hainan, the Greater Sundas, the Philippines and SE Asia.

Habitat :

Dry evergreen forest, dipterocarp forest and secondary growth.

Habit :

Live gregariously in large flocks that move around searching for their favourite diet of wild fruits. Breeding time falls between January-March. Two eggs forming a normal clutch. Parent will incubate the eggs for 14 days.

Status :

A frequently-seen resident. A huge number of more than 300 birds had ever observed congregating on fruiting fig trees in dry evergreen forest in September-October.

เรียบเรียงโดย :สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ลักษณะ :

ลำตัวยาว 60-82 ซม. ไก่ตัวผู้มีหน้าสีแดงสด มีขนหงอนเป็นกระจุก สีดำเหลือบฟ้า สะโพกเหลือง หางยาวและโค้งลงสีดำอมฟ้า ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่า ลำตัวเป็นสี น้ำตาล มีลายขวางสีดำบริเวณปีกและหาง

เขตแพร่กระจาย :

ไทย อินโดจีน

ที่อยู่อาศัย :

ป่าดิบแล้ง และป่ารอยต่อระหว่างป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง ป่าไผ่

อุปนิสัย :

ชอบหากินตามพื้นดิน กินแมลง ปลวก หนอน สัตว์ขนาดเล็ก และลูกไม้สุก ผสมพันธุ์ระหว่างเดือนกุมภาพันธุ์-พฤษภาคม สร้างรังอยู่บนพื้นดิน ใต้พุ่มไม้ กอหญ้า กอไผ่ วางไข่ครั้งละ 5-8 ฟอง

สถานภาพ :

โดยทั่วไปเป็นนกประจำถิ่นที่ค่อนข้างหายาก แต่พบได้บ่อยที่ป่าสะแกราช

Characteristics :

Size 60-82 cm. A cock has a distinctive bright red facial skin, a bushy black crest with bluish sheen; yellowish red rump patch and long, curved black tail. A hen is smaller in size and having brownish body crossed boldily by black pattern on wings and tail.

Distribution :

Thailand and adjoining Indo-China.

Habitat :

Dry evergreen forest and the ecotone between the dry evergreen and the dipterocarp forests, also found living in the bamboo forest.

Habit :

Mainly terrestrial in foraging habit, scratching among leaf litter for insects, termites, worms, small animals and ripe fruits. Breeds between February-May, and nests on the ground, usually hiding under shrubs or between grass tussocks, and in bamboo clumps, in which 5-8 eggs will be laid.

Status :

Generally, a rather scarce resident. Fortunately quite common in Sakaerat area.

เรียบเรียงโดย :สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
ลักษณะ :

ลำตัวยาว 30-36 ซม. นกตัวเมียมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย ขนด้านหลังสีน้ำตาล อมเทา แต่ในตัวผู้หลังเป็นสีเทา ขนด้านล่างลำตัวเป็นสีขาว มีลายขวางเล็ก ๆ สี น้ำตาลแดง คางขาว

เขตแพร่กระจาย :

ทวีปอาฟริกา เอเชียตอนใต้ จีนตอนใต้ ไหหลำ หมู่เกาะนิโคบาร์ สุมาตรา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้ทั่วไป ยกเว้นตอนใต้สุดของประเทศ

ที่อยู่อาศัย :

ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และป่ารุ่น

อุปนิสัย :

ชอบเกาะอยู่ตามกิ่งไม้สูงเด่น บางครั้งจะบินร่อนในช่วงสั้น ๆ จะพุ่งลงไปจับเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว กินแมลง สัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก เช่น นก หนู และสัตว์เลื้อยคลาน ผสมพันธุ์ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม วางไข่ครั้งละ 3-5 ฟอง ใช้เวลาฟักไข่ 18-21 วัน

สถานภาพ :

มีทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ พบไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่พบในป่าเต็งรัง ครั้งละ 1 ตัว

Characteristics :

Size 30-36 cm. Female a little larger than the male, has greyish brown back, whereas it is grey in the male; whitish underpart with fine reddish brown barrrings. Chin white.

Distribution :

Africa, South Asia, Southern China, Hainan, the Nicobars, through SE Asia to Sumatra. In Thailand, widely spread except in the southernmost provinces.

Habitat :

Dry evergreen forest, dipterocarp forest and secondary growth.

Habit :

Prefers exposed perches. Sometimes seen soaring for a short distances, before plunging swiftly to seize preys. Diet comprises large insects, small vertebrates, such as birds, rodents and reptiles. Breeding between March-May, when a clutch of 3-5 eggs will be deposited. The incubation period is 18-21 days.

Status :

Being uncommon, both as a resident and a seasonal migrant. Mostly found singly in the dipterocarp forest.

เรียน ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน

งานนิทรรศการเนื่องในวันสถาปนา สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) 47 ปี พร้อมแล้ว ที่จะจัดขึ้น ณ เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน 2553 ดังรายละเอียดไฟล์ที่แนบ หรือ ติดต่อ http://www.tistr.or.th หรือ โทร 0 2579 3000

กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยสำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ดำเนินโครงการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรม ICT ไทย ระยะที่ 2 เพื่อรวบรวมผลงาน วิจัยและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับเป้าหมายการวิจัยตามยุทธศาสตร์ด้านการวิจัยของประเทศไทยและยุทธศาสตร์ด้านการวิจัยและพัฒนาตามกรอบแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 2)  ของประเทศไทย พ.ศ.2552-2556  และแผนยุทธศาสตร์ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อพัฒนาเครือข่ายการวิจัยและพัฒนาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เครือข่ายนักวิจัยและพัฒนา และเครือข่ายความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลผลงานวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกำหนดแนวทางการพัฒนาบุคลากรวิจัยให้มีความสามารถในการปฎิบัติการวิจัยได้ตามเป้าหมายที่กำหนด

เพื่อให้การดำเนินงานของโครงการฯ สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ จึงได้กำหนดจัดให้มีงานสัมมนาเปิดตัวโครงการฯ ขึ้นในวันที่ 15 มิถุนายน 2553 ณ ห้อง 904 ชั้น 9 อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระหว่างเวลา 9.00 น. – 13.00 น.    จึงขอเรียนเชิญนักวิจัยและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยด้านไอซีทีเข้าร่วมงานสัมมนาตามวันและเวลาดังกล่าว เพื่อรับฟังรายละเอียดการเข้าร่วมงานและส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการดังกล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณวีรลักษณ์  สุกมาเพียร โทรศัพท์ +662 285 3400-1 ต่อ 14, 081 346 3311

เอกสารการแถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก และแนวโน้มปี 2553

1. Economic Outlook : ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สี่ ทั้งปี 2552 และแนวโน้มปี 2553 [ภาษาไทย] [ภาษาอังกฤษ]

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

เว็บไซต์ : www.nesdb.go.th

วันที่ 24 พฤษภาคม 2553

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่แห่งประเทศไทย (วว.) ได้พัฒนารถนั่งเคลื่อนที่อเนกประสงค์

คุณสมบัติ : สามารถปรับ ยืน/นอน/เอน/นั่งให้ผู้สูงอายุ/ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองได้รองรับการขับถ่าย ขณะอยู่บนรถ

สนใจติดต่อ Call Center โทร (66) 025793000

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่แห่งประเทศไทย (วว.) ได้พัฒนาเครื่องดึงหลังและคออัตโนมัติ สนใจติดต่อ Call Center ที่ 02 5793000

เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์อยู่ในภาวะวิกฤต วว. ขอแจ้งเลื่อนการจัดงานเปิดโลกทัศน์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 47 ปี วว. จากวันที่ 21-23 พฤษภาคม 2553 เป็น วันที่ 25-27 มิถุนายน 2553 ระหว่างเวลา 9.00-17.00 น. ณ วว.เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี จึงเรียนมาเพื่อทราบและขออภัยมา ณ ที่นี้