Author: กองพัฒนาและจัดการความรู้องค์กร
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ (ปี 60)
สำหรับหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ ที่ต้องมีการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนให้การดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนงบประมาณประจำปี และจำเป็นต้องรับทราบถึงเกณฑ์ราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ มีกรอบในการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ อันนำมาซึ่งความคุ้มค่าในการลงทุน และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันทางราคา จึงมีการกำหนดเกณฑ์ราคามาตรฐานของครุภัณฑ์ขึ้น ซึ่งเกณฑ์ราคามาตรฐานล่าสุดต่าง ๆ มีดังนี้
- เกณฑ์ราคาพื้นฐาน สำหรับอุปกรณ์ ICT ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเมื่อ วันที่ 21 เมษายน 2560 ปีงบประมาณ 2560โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mict.go.th
- อัตราราคางานต่อหน่วย ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ มกราคม 2560ประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2560 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2560โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้าง ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2560 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- หลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย และแนวทางการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี การฝึกอบรม สัมมนา การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การจ้างที่ปรึกษา คชจ.การเดินทางไปต่างประเทศ ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2560 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- หลักเกณฑ์ และอัตราค่าใช้จ่าย ประกอบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่เบิกจ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ใช้สอย วัสดุ และค่าสาธารณูปโภค ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2560 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th<
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ (ปี 59)
สำหรับหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ ที่ต้องมีการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนให้การดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนงบประมาณประจำปี และจำเป็นต้องรับทราบถึงเกณฑ์ราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ มีกรอบในการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ อันนำมาซึ่งความคุ้มค่าในการลงทุน และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันทางราคา จึงมีการกำหนดเกณฑ์ราคามาตรฐานของครุภัณฑ์ขึ้น ซึ่งเกณฑ์ราคามาตรฐานล่าสุดต่าง ๆ มีดังนี้
- ร่างเกณฑ์ราคาพื้นฐาน สำหรับอุปกรณ์ ICT ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อยู่ระหว่างประชาพิจารณ์ เผยแพร่ ณ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 ปีงบประมาณ 2559 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mict.go.th
- อัตราราคางานต่อหน่วย (เล่ม 1) ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2559 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มีนาคม 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เพิ่มเติมรายการ ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ กันยายน 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้าง ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2559 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- หลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย และแนวทางการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี การฝึกอบรม สัมมนา การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การจ้างที่ปรึกษา คชจ.การเดินทางไปต่างประเทศ (มกราคม ๒๕๕๙) ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2559 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- หลักเกณฑ์ และอัตราค่าใช้จ่าย ประกอบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ที่เบิกจ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ใช้สอย วัสดุ และค่าสาธารณูปโภค (มกราคม ๒๕๕๙) ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มกราคม 2559 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th<
เอกสารการแถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2558
เอกสารการแถลงข่าวภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส ปี 2558
1. Economic Outlook : ภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1 ปี 2558 [ภาษาไทย] [ภาษาอังกฤษ]
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เว็บไซต์ : www.nesdb.go.th
วันที่ 18 พฤศภาคม 2558
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ (ปี 58)
สำหรับหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ ที่ต้องมีการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนให้การดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนงบประมาณประจำปี และจำเป็นต้องรับทราบถึงเกณฑ์ราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ มีกรอบในการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ อันนำมาซึ่งความคุ้มค่าในการลงทุน และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันทางราคา จึงมีการกำหนดเกณฑ์ราคามาตรฐานของครุภัณฑ์ขึ้น ซึ่งเกณฑ์ราคามาตรฐานล่าสุดต่าง ๆ มีดังนี้
- เกณฑ์ราคาพื้นฐาน สำหรับอุปกรณ์ ICT ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ปีงบประมาณ 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mict.go.th
- เกณฑ์ราคาพื้นฐาน สำหรับอุปกรณ์ ICT เพิ่มเติมรายการ แท็ปแล็ต ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 18 กุมภาพันธ์ 2558 ปีงบประมาณ 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mict.go.th
- อัตราราคางานต่อหน่วย (เล่ม 1) ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มีนาคม 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มีนาคม 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เพิ่มเติมรายการ ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ กันยายน 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้าง ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มีนาคม 2558 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ (ปี 57)
สำหรับหน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ ที่ต้องมีการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนให้การดำเนินงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงนั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนงบประมาณประจำปี และจำเป็นต้องรับทราบถึงเกณฑ์ราคามาตรฐานครุภัณฑ์ เพื่อช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ มีกรอบในการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์ อันนำมาซึ่งความคุ้มค่าในการลงทุน และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันทางราคา จึงมีการกำหนดเกณฑ์ราคามาตรฐานของครุภัณฑ์ขึ้น ซึ่งเกณฑ์ราคามาตรฐานล่าสุดต่าง ๆ มีดังนี้
- เกณฑ์ราคาพื้นฐาน สำหรับอุปกรณ์ ICT ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 ปีงบประมาณ 2557 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mict.go.th
- อัตราราคางานต่อหน่วย (เล่ม 1) ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ มิถุนายน 2556 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ กุมภาพันธ์ 2556 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
- บัญชีราคามาตรฐานสิ่งก่อสร้าง ตามที่สำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงานประมาณ ประกาศเมื่อ กุมภาพันธ์ 2555 โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.bb.go.th
การผลิตน้ำมะขามพร้อมดื่ม
มะขามเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญสำหรับประเทศไทย โดย มะขามหวานและมะขามเปรี้ยว สามารถทำรายได้ให้กับเกษตรกรสูงโดยเฉพาะมะขามหวาน
มะขามส่วนใหญ่มีคุณค่าทางโภชนาการ ด้านอาหารและยา โดยมะขามมีประโยชน์ด้านแคลเซียม ฟอสฟอรัส (ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ) เบต้า แคโรทีน (ซึ่งช่วยบำรุงสายตา) และวิตามิน ซี (ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคแก่ร่างกาย) นอกจากนี้ เนื้อมะขามยังมีสารประเภทกรดอินทรีย์ (กรดทาร์ทาร์ลิค กรดมาลิค กรดซิตริก) ซึ่งความเปรี้ยวของกรด มีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยลดความร้อนภายในร่างกาย แก้ร้อนใน และขับเสมหะ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มะขามเปรี้ยว เป็นน้ำมะขามพร้อมดื่ม ซึ่งมีลักษณะใสและมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเหมือนธรรมชาติ ช่วยให้ชาวเกษตรกรที่สนใจปลูกมะขามเปรี้ยวมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถส่งจำหน่ายภายในและภายนอกประเทศได้ ผู้สนใจที่จะให้จัดฝึกอบรมสามารถติดต่อมาได้ที่ ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) 35 หมู่ 3 เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 โทร. 02 577 9130 – 02 577 9131
กระบวนการผลิตน้ำมะขาม
- เริ่มจาก นำเนื้อมะขามเปรี้ยวหรือเนื้อมะขามเปียก (300 กรัม) มาแยกเส้นใยและเมล็ดออก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด
- จากนั้นนำมาต้มในน้ำร้อน ในอัตราส่วน เนื้อมะขาม 300 กรัม ต่อ น้ำ 2 ลิตร ให้ความร้อนอุณหภูมิ 80-85 °ซ จนเริ่มเดือด โดยมีการคนตลอดเวลา แล้วจึงกรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะขาม ส่วนที่ 1 ประมาณ 1.1 – 1.2 ลิตร
- แล้วจึงนำเนื้อมะขามบีบเอาน้ำออกแล้ว ต้มในน้ำ 2 ลิตร ให้ความร้อนอุณหภูมิ 80-85 °ซ จนเริ่มเดือด โดยมีการคนตลอดเวลา แล้วจึงกรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะขาม ส่วนที่ 2 ประมาณ 1.5 -1.6 ลิตร
- หลังจากนั้นนำเนื้อมะขามบีบเอาน้ำออกแล้ว ต้มในน้ำ 2 ลิตร ให้ความร้อนอุณหภูมิ 80-85 °ซ จนเริ่มเดือด โดยมีการคนตลอดเวลา แล้วจึงกรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะขาม ส่วนที่ 3 ประมาณ 1.5 – 1.6 ลิตร
- นำเนื้อมะขามบีบเอาน้ำออกแล้ว ต้มในน้ำ 2 ลิตร ให้ความร้อนอุณหภูมิ 80-85 °ซ จนเริ่มเดือด โดยมีการคนตลอดเวลาให้นำเนื้อมะขามทิ้ง กรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะขาม ส่วนที่ 4 ประมาณ 1.5 -1.6 ลิตร
- จากนั้นนำน้ำมะขามทั้ง 4 ส่วนมาผสมรวมกัน กรองด้วยผ้าขาวบาง จะได้น้ำมะขามประมาณ 5.0 – 5.5 ลิตร
- เติมน้ำตาลและเกลือ คนให้เข้ากัน
- นำไปตั้งไฟ ที่อุณหภูมิ 80-85°ซ
- แล้วจึงบรรจุลงในภาชนะ
น้ำกล้วยหอมพร้อมดื่ม
กล้วยหอมเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทย ปลูกมากในแถบจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร เพชรบุรี นครปฐม ราชบุรี จังหวัดปทุมธานี ฯลฯ กล้วยหอมสามารถเป็นสินค้าส่งออกระดับประเทศ เพราะกล้วยหอมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารชนิดต่าง ๆ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เป็นต้น สรรพคุณของกล้วยหอม แก้โรคท้องผูก โรคลำไส้ โรคซึมเศร้า โรคโลหิตจาง เป็นต้น
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้พัฒนาสูตรน้ำกล้วยหอมพร้อมดื่ม เพื่อช่วยเหลือชาวเกษตรกรที่ปลูกกล้วยหอม ในช่วงฤดูที่กล้วยหอมออกผลผลิตมามากเกินความต้องการของตลาด
ขณะนี้ทาง ฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้นำเทคโนโลยีการผลิตน้ำกล้วยหอมพร้อมดื่ม เปิดการฝึกอบรมเพื่อให้กับผู้ที่สนใจจะเข้ารับการอบรม
ขั้นตอนในการนึ่งกล้วย
|
ขั้นตอนในการผลิตน้ำกล้วยพร้อมดื่ม |
กล้วยหอมตัดเป็นลูกๆ
ล้างน้ำสะอาด
นึ่ง 8 นาที
ปอกกเปลือกเอาแต่เนื้อ 3 กก. + ซิตริก 1%
ใส่เครื่องปั่น นาน 1-2 นาที
กล้วยบดละเอียด+น้ำสะอาด (1:4 )
กรอง |
น้ำกล้วยที่ได้จากการกรอง 11 กก.
ตั้งไฟอุณหภูมิ 80-90 องศา
ผสมน้ำตาลทรายขาว 650 กรัม +แซนแทนกัม 0.1%
กรอง
ตั้งไฟอุณหภูมิ 80-90 องศา
บรรจุ ในภาชนะที่เตรียมไว้ |
การผลิตมะนาวนอกฤดู
โดย ดร.กุศล เอี่ยมทรัพย์
ฝ่ายเทคโนโลยีการเกษตร
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย
การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผลิตมะนาวนอกฤดูมี 3 วิธี
วิธีที่ 1
การใช้ปุ๋ยและฮอร์โมนในการบังคับการออกดอกนอกฤดู
ใช้ปุ๋ยทางใบสูตร 0-52-34 ร่วมกับปุ๋ยทางดินสูตร 0-46-01 หากต้นมะนาวมีสภาวะต้นที่สมบูรณ์ ก็สามารถที่จะออกดอกได้ดียิ่งขึ้นแม้ว่าจะไม่มีช่วงแล้งก็ตาม นอกจากนี้ อาจใช้ฮอร์โมนพาโคบิวทาโซลช่วยให้ออกดอกมากขึ้น แต่วิธีการนี้จะบังคับการออกดอกได้ยากและได้ผลไม่แน่นอน เพราะจะมีผลของความชื้นในดินที่ควบคุมไม่ได้มาเป็นปัจจัยที่ทำให้การออกดอกน้อยกว่าวิธีอื่นๆ
วิธีที่ 2
การควบคุมน้ำให้เกิดการสะสมอาหารและการเกิดดอก
ต้นมาะนาวมีการออกดอกได้ดีเมื่อผ่านช่วงของความแล้งมาระยะหนึ่งโดยใช้ระยะเวลาระหว่าง 20-30 วัน ทั้งนี้ย่อมแล้วแต่ความสมบูรณ์ของต้น ขนาดของทรงพุ่มต้นและสภาพของดิน หากเป็นดินทรายย่อมได้เปรียบมากกว่าดินเหนียว และสามารถชักนำให้เกิดสภาพแล้งให้กับระบบรากได้เร็วกว่า บางครั้งใช้เวลาเพียง 10 วันก็เพียงพอ การปฏิบัติดูแลรักษาเพื่อช่วยให้มีประสิทธิผลของการชักนำสภาพแล้งได้ดียิ่งขึ้น หรือการปลูกมะนาวในกระถางหรือบ่อซีเมนต์ การบังคับให้ออกดอก ในช่วงประมาณเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน หลังจากให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนแกง จึงรดน้ำพอให้ปุ๋ยละลาย แล้วต้องงดการให้น้ำอย่างสิ้นเชิง เป็นเวลา 15-20 วัน แต่ถ้าฝนตกก็จะต้องหาพลาสติกมาคลุมโคนต้นทุกต้น เมื่อเห็นว่ามะนาวเริ่มเฉาสลัดใบทิ้งจึงให้น้ำตามปกติ และให้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 โดยใช้ 2 ช้อนแกงต่อต้น ต่อมาอีกประมาณ 15 วัน จะเห็นว่ามะนาวจะเริ่มแตกยอดอ่อน และออกดอกมาในคราวเดียวกัน ในช่วงระยะมะนาวมีดอก จะต้องดูแลโดยการฉีดพ่นสารสะเดาหรือสารขับไล่แมลงอื่นๆ ส่วนในช่วงมะนาวติดผลจะต้องฉีดพ่นสารกำจัดเชื้อราและต้องให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในอัตรา 1-2 ช้อนแกงต่อต้น ทุก 20 วัน
ขั้นตอนในการดำเนินการในปีที่ 2 มีดังนี้
- ตัดแต่งกิ่ง เด็ดผลที่เหลือบนต้นออก เพื่อบำรุงต้น เร่งการสร้างยอดใหม่ ใบใหม่ โดยผลมะนาวที่คุณภาพดีที่สุดคือผลที่เกิดจากยอดใหม่ ผลที่เกิดจากกิ่งเก่าคุณภาพจะด้อยลงมา ผลที่คุณภาพต่ำสุดคือผลที่เกิดติดกิ่ง หลังตัดแต่งกิ่งเสร็จใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 เพื่อบำรุงต้นให้สมบูรณ์เท่าที่ควร
- การให้ปุ๋ยชีวภาพซึ่งได้จากการหมักหอยเชอรี่ 30 กก. เศษผลไม้ 10 กก. กากน้ำตาล 10 กก. เชื้อพด. 2 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร สูตรนี้สามารถใช้ฉีดพ่นทางใบในอัตรา 20-25 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตรได้
- ในระยะนี้ต้องรักษาใบและยอดให้ดี เนื่องจากมีโรค แมลงที่สำคัญเข้าทำลายในระยะยอดอ่อนถึงเพสลาดคือ เพลี้ยไฟและโรคแคงเกอร์ ใช้ในระยะก่อนเก็บเกี่ยวไม่น้อยกว่า 2 เดือน
- เนื่องจากมะนาว มีอายุผลประมาณ 5 เดือน สามารถเก็บขายได้ในเดือนที่ 6 การวางแผนการบังคับให้ออกนอกฤดู คือ ต้องทำให้ออกดอกเดือนตุลาคม เดือนกันยายนต้องงดปุ๋ย งดน้ำจนใบเหี่ยว สลด และหลุดร่วงประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นให้น้ำตามปกติ ปุ๋ยเคมีที่ใช้เพื่อเปิดตาดอกในระยะนี้คือ ปุ๋ยสูตรที่มีตัวกลางสูง เช่น 12-24-12 หรือ 15-30-15 ปริมาณ 1 กำมือต่อวง รดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้ปุ๋ยละลาย
- หลังติดดอกแล้วให้น้ำตามปกติ
วิธีที่ 3
การใช้ต้นตอให้เกิดการสะสมอาหารและเกิดดอก
การเข้ากันไม่ได้สมบูรณ์ทำให้เกิดการสะสมอาหารและออกดอกนอกฤดู เช่น ใช้ต้นมะขวิดหรือต้นตอชนิดอื่น