เครื่องดื่มน้ำมะนาว เป็นการนำมะนาว พันธุ์น้ำหอมทูลเกล้า และพันธุ์แป้นมาทำการศึกษาปริมาณผลผลิตที่เหมาะสม และทดสอบผลิตภัณฑ์ให้ได้น้ำมะนาวที่มีรสชาติดี ดื่มง่าย

a40

คุณสมบัติพิเศษ

ควบคุมคุณภาพของน้ำมะนาวพร้อมดื่มนั้น ควบคุมความหวานที่ 15.5 บริกซ์ ค่าความเป็นกรดร้อยละ 0.46-0.57 และค่าความเป็นกรด – ด่าง 3.2

ทำการพาสเจอร์ไรส์ที่อุณหภูมิที่เหมาะสม คือ 95 องศาเซลเซียส และที่ความดัน -200 มิลลิเมตรปรอท กับที่ 75 องศาเซลเซียส โดยใช้เวลาในการฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิดังกล่าว 27 วินาที จะได้ผลิตภัณฑ์ปลอดจากจำนวนจุลินทรีย์ ยีสต์ และรา ทุกตัวอย่าง ซึ่งเป็นความปลอดภัยต่อผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตลอดระยะเวลา 6 เดือน

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

ผลิตภัณฑ์ใยอาหารจากเปลือกผลไม้  เป็นผลิตภัณฑ์ใยอาหารที่ใช้เสริมในผลิตภัณฑ์อาหารทั่วไป เพื่อเพิ่มมูลค่าของเปลือกผลไม้ ทดแทนการนำเข้าผลิตภัณฑ์ใยอาหารจากต่างประเทศ และลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมผักผลไม้ โดยเปลือกผลไม้ที่ได้นำมาศึกษา ได้แก่ เปลือกมะม่วงแก้ว เปลือกมะม่วงโชคอนันต์ เปลือกทุเรียนหมอนทอง เปลือกเงาะโรงเรียน เปลือกกระท้อน เปลือกลำไย เปลือกลองกอง ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ดังนี้

a39

 

  1. ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ นำมาใช้ในลักษณะการทดแทนส่วนของแป้งสาลีที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในผลิตภัณฑ์เบเกอรีในระดับ ตั้งแต่ 10 – 15% ทำให้แคลอรีของผลิตภัณฑ์ลดลงและมีปริมาณใยอาหารเพิ่มขึ้น
  1. ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ นำมาใช้ในลักษณะเสริมเข้าไปในผลิตภัณฑ์ในปริมาณ 3 – 7% โดยยังคงทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพในระดับที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค

 

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ใยอาหารจากเปลือกผลไม้

           ใยอาหารจากทุเรียน   มีปริมาณใยอาหารสูง ให้พลังงานน้อย ไขมันต่ำ มีความสามารถในการอุ้มน้ำและน้ำมันสูง จึงช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและกำจัดไขมันได้ดี ไม่มีสีรบกวนลักษณะของผลิตภัณฑ์อาหาร

ใยอาหารจากเปลือกมะม่วง  มีปริมาณใยอาหารสูง โดยเฉพาะใยอาหารที่ละลายน้ำ จึงมีส่วนช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลและคงระดับน้ำตาลในเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ใยอาหารจากเปลือกเงาะ  มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและไขมันต่ำ

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

เห็ดเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการส่งเสริมให้เพาะปลูกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเห็ดมีคุณค่าทางโภชนาการมีไขมันต่ำ ไม่มีคอเลสเตอรอล เป็นแหล่งโปรตีนจากธรรมชาติคุณภาพสูง มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบถ้วน ใช้เป็นแหล่งของเกลือแร่และวิตามิน และยังมี เบต้ากลูแคน ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย  และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้

เห็ดโดยทั่วไปนิยมนำมาแปรรูปเป็นอาหาร เช่น เห็ดนางรมหลวง เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดหอม เห็ดเข็มทอง และเห็ดนางฟ้า เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีการผลิตในเชิงพาณิชย์แล้ว เห็ดบางชนิดมีสรรพคุณเป็นยา ที่คนจีนนิยมให้เป็นสมุนไพรในการรักษาโรค เช่น เห็ดหลินจือ เห็ดหูหนู เห็ดโคน เห็ดหัวลิง เห็ดไมตาเกะ เห็ดหอม เป็นต้น  ในขณะที่บางชนิดเป็นเห็ดพิษ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ด้วยคุณลักษณะเด่นของเห็ดที่มีรสอร่อย (รส Umami, อูมามิ) สามารถใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ได้ มีเกลือค่อนข้างต่ำ และมีน้ำตาลที่ให้รสธรรมชาติ จึงได้ดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจากเห็ดโดยเลือกสายพันธุ์ของเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และกระบวนการแปรรูปให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จ อาหารแช่เยือกแข็ง ขนมขบเคี้ยว ซอส/ผงปรุงรส และเครื่องดื่มจากเห็ด อาทิเช่น

–  ผลิตภัณฑ์ซุปเห็ดกึ่งสำเร็จรูป

a24

–  ผลิตภัณฑ์ต้มแซบเห็ด

a25-1

 

–  ผลิตภัณฑ์แกงเลียงเห็ด

a25-2

–  ผลิตภัณฑ์น้ำยากะทิจากเห็ดกึ่งสำเร็จรูป

a26

–  ผลิตภัณฑ์เห็ดแผ่นกรอบ

a28

–  ผลิตภัณฑ์นักเก็ตเห็ด

a27

–  ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเห็ด

a29

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

ผลิตภัณฑ์น้ำยาอนามัยสตรีสำหรับสมุนไพรไพล : ไพลจีนิค (PLYGENIC) เป็นผลิตภัณฑ์แผ่นผ้าอนามัยเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นภายนอกสำหรับสตรี

B014

 

คุณสมบัติพิเศษ

มีผลในการยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียก่อโรคสตรี เช่น  เชื้อก่อโรคในช่องคลอด  เป็นต้น และยังสามารถกำจัดเชื้อที่ปนเปื้อนตามพื้นผิวสุขภัณฑ์ ซึ่งมีลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์คือ มีน้ำมันไพลเป็นองค์ประกอบหลัก และมีความเป็นกรดอ่อนใกล้เคียงกับสภาวะภายในปกติของช่องคลอด โดยคุณสมบัติของน้ำมันไพล (Phlai oil) ที่สกัดได้จากเหง้าไพล (Zingiber montanum  (Koenig) Link ex. Dietr.) นั้นพบข้อมูลยืนยันว่า มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยมีฤทธิ์ยับยั้ง (MIC) และฆ่าเชื้อ (MLC) จุลินทรีย์ก่อโรคในช่องคลอด; Neisseria gonorrhoeae (Non-PPNG 7 รหัสและ PPNG 12 รหัส) เชื้อประจำถิ่น; Candida albicans TISTR 5239, Candida  krusei TISTR 5267,  Candida  glabrata TISTR 5006, Saccharomyces  cerevisiae TISTR 52405240 และเชื้อปนเปื้อนตามสุขภัณฑ์ ; Staphylococcus aureus TISTR 118, Escherichia coli ATCC 25922, Pseudomonas  aeruginosa ATCC 27893, Bacillus  cereus DMST 5040

 

ผลิตภัณฑ์ไพลจีนิค (PLYGENIC) ผ่านการทดสอบว่าไม่ระคายเคือง (Skin, Vaginal Irritation Test) และไม่ก่อความเป็นพิษ (Acute Dermal Toxicity) แก่สภาพผิวที่สัมผัส จึงเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นภายนอกสำหรับสตรี ที่มีฤทธิ์ฆ่าและยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากฟักข้าว BIO-GAC มีองค์ประกอบสำคัญในแต่ละสูตรตำรับคือ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติจากสารสกัดฟักข้าว และ วว. คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ จึงไม่มีสารซัลเฟตและพาราเบน (Sulphate-Free และ Paraben-Free)

B8

1. BIO-GAC Anti-aging serum
ผลิตภัณฑ์เซรั่มชะลอแก่

อุดมด้วยสารแอนตีออกซิแดนท์ธรรมชาติ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอนุมูลซุปเปอร์ออกไซด์และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ช่วยปกป้องเซลล์ผิวหน้าจากการเสื่อมสภาพก่อนวัย

 

2. BIO-GAC UV shield cream
ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด

ช่วยปกป้องและลดการทำร้ายเซลล์ผิวหน้าจากอันตรายของรังสีอัลตร้าไวโอเลตในแสงแดด

 

3. BIO-GAC Facial scrub cream
ผลิตภัณฑ์ครีมสครับหน้า

ประกอบด้วยสารแอนตีออกซิแดนท์ในสารสกัด และเม็ดสครับจากฟักข้าว เพื่อทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดเซลล์เสื่อมสภาพและบำรุงผิว

 

4. BIO-GAC Body scrub cream
ผลิตภัณฑ์ครีมสครับตัว

เพื่อทำความสะอาดผิวกายและขจัดเซลล์เสื่อมสภาพด้วยเม็ดสครับจากฟักข้าว

 

5. BIO-GAC Moisturizing lotion
ผลิตภัณฑ์โลชั่นให้ความชุ่มชื่นผิว

ประกอบด้วยสารแอนตีออกซิแดนท์ในสารสกัดฟักข้าว และสารบำรุงที่ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื่น

6. BIO-GAC Transparent soap
ผลิตภัณฑ์สบู่ใสล้างหน้า

ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในสารสกัดฟักข้าว และสารให้ความชุ่มชื่นผิว ช่วยทำความสะอาดและบำรุงผิวหน้า

 

7.BIO-GAC Facial Whip Foam”

ผลิตภัณฑ์วิปโฟมล้างหน้า
เป็นผลิตภัณฑ์สูตรโฟมล้างหน้าที่มีลักษณะของเหลวใส
แต่เมื่อกดปั๊มจะมีโฟมเป็นเนื้อมูสใช้สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า
ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้ง แต่เพิ่มความชุ่มชื่นและลดความหมองคล้ำ

 

8 “BIO-GAC Facial Toner”

ผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวหน้าหลังการทำความสะอาด
เป็นผลิตภัณฑ์สูตรโทนเนอร์ปราศจากอัลกอฮอล์
ใช้สำหรับเช็ดหน้าหลังจากการทำความสะอาด มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื่น
กระชับรูขุมขน ลดการอุดตันและทำให้ผิวหน้าเรียบกระจ่างใส

 

9.GAC Under Eye Serum”

ผลิตภัณฑ์เซรั่มบำรุงผิวใต้ดวงตา
เป็นผลิตภัณฑ์สูตรเซรั่ม ใช้สำหรับบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตา เพิ่มความชุ่มชื่น และชะลอการเกิดริ้วรอยปราศจากน้ำหอม (fragrance-free) ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเซลล์ผิวหนังที่ละเอียดอ่อนใต้ดวงตา

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

วว.โดยทีมผู้วิจัยได้ทำการศึกษาปริมาณและชนิดของใยอาหารในผักพื้นบ้านชนิดต่างๆ รวมทั้งสรรพคุณทางเภสัชวิทยาของสารสกัดผักชนิดนั้นๆ และได้คัดเลือกผักพื้นบ้านที่มีศักยภาพโดดเด่น คือ มีปริมาณใยอาหารสูง (ทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ) และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ผักและใยอาหารชนิดเม็ด (Dietary Fiber Tablets) จากผักพื้นบ้าน 3 ชนิดได้แก่ ผักเชียงดา (Gymnema inodorum Decne.), ผักแพว (Polygonum odoratum Lour.) และ ผักขะแยง (Limnophila aromatica Merr.) ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านที่จัดอยู่ในกลุ่มที่มีใยอาหารรวมในระดับสูง เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมบริโภคพืชพื้นบ้านและต้องการดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ

B4

คุณสมบัติพิเศษ

จากการศึกษาพบว่า ใยอาหาร โดยเฉพาะประเภทใยอาหารที่ละลายน้ำสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ เพราะช่วยกระตุ้นการขับถ่ายกรดน้ำดีเพิ่มขึ้น ลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคไขมันในหลอดเลือดและโรคหัวใจ ในขณะที่ใยอาหารชนิดที่ไม่ละลายน้ำช่วยทำให้ลำไส้ใหญ่ทำหน้าที่ได้ดีขึ้น เพิ่มมวลอุจจาระ และเพิ่มความถี่ของการขัยถ่ายอุจจาระ จึงลดปริมาณการสะสมสารพิษ (สารก่อมะเร็ง) ในลำไส้ใหญ่ ลดภาวะเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ และทำให้การเตรียมสารสำหรับถูกย่อยโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่เป็นไปโดยปกติ การรับประทานอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีใยอาหารสูงจึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคท้องผูกและริดสีดวงทวาร นอกจากนี้ใยอาหารยังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนักและป้องกันโรคอ้วนได้

ผลิตภัณฑ์

1.TISTR FiberLite – Gymnema”ผลิตภัณฑ์ผักและใยอาหารชนิดเม็ดจากผักเชียงดา ปริมาณใยอาหารรวม (Total dietary fiber: TDF) ไม่น้อยกว่า 190 มิลลิกรัมต่อเม็ด ขนาดบรรจุ 30 เม็ดต่อซอง

2.“TISTR FiberLite – Limnophira ”ผลิตภัณฑ์ผักและใยอาหารชนิดเม็ดจากผักขะแยง (ผสมสารสกัด)ปริมาณใยอาหารรวม (Total dietary fiber: TDF) ไม่น้อยกว่า 190 มิลลิกรัมต่อเม็ด ขนาดบรรจุ 30 เม็ดต่อซอง

3 “TISTR FiberLite – Polygonum ”ผลิตภัณฑ์ผักและใยอาหารชนิดเม็ดจากผักแพว (ผสมสารสกัด)ปริมาณใยอาหารรวม (Total dietary fiber: TDF)  ไม่น้อยกว่า 270 มิลลิกรัมต่อเม็ด ขนาดบรรจุ 30 เม็ดต่อซอง

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

B3

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร BETA-GAC มีองค์ประกอบสำคัญ Momordica cochinchinensis (GAC) powder, Beta-Carotene (Vitamin A Precursor), Alpha-Tocopheral (Natural Vitamin E), Dietary Fiber

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร BETA-GAC ใน 1 เม็ดมี Beta-Carotene 170 ไมโครกรัม เท่ากับปริมาณที่คนไทยควรได้รับต่อวัน เพื่อการบำรุงสายตา

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร BETA-GAC PLUS มีองค์ประกอบสำคัญ Momordica Cochinchinensis (GAC) Extract and Powder, Beta-Carotene (Vitamin A Precursor), Alpha-Tocopheral (Natural Vitamin E), Dietary Fiber

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร BETA-GAC PLUS มีสรรพคุณ บำรุงร่างกายจากสารต้านอนุมูลอิสระในสารสกัดฟักข้าวและช่วยบำรุงสายตาจากสาร Beta-Carotene

 

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

ลิทเซียร่า (Litsiara)  ผลิตภัณฑ์แฮร์โทนิคที่พัฒนาจากสารสกัดตะไคร้ต้นและขิง ผ่านการประเมินความปลอดภัยเบื้องต้นในสัตว์ทดลอง ได้แก่ การทดสอบความเป็นพิษเฉียบพลันทางผิวหนัง การก่อการระคายเคืองต่อผิวหนัง การก่อการระคายเคืองต่อตาและ การก่ออาการแพ้ต่อผิวหนัง นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบความปลอดภัยต่ออาสาสมัคร โดยผลการสำรวจความพึงพอใจในการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ พบว่า ผู้บริโภคที่มีปัญหารังแคพึงพอใจในการใช้ผลิตภัณฑ์อยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างมาก คุณสมบัติพิเศษ

B2

คุณสมบัติพิเศษ

มีประสิทธิภาพต้านเชื้อราที่เป็นสาเหตุการเกิดรังแค (M.fufur) และมีฤทธิ์ต้านอักเสบ

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

“ผลิตภัณฑ์ยาเม็ดจากสมุนไพรเพชรสังฆาต”: Cissa-Roids (ซิสซา-รอยด์) สำหรับรักษาโรคริดสีดวงทวาร ผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบทางคลินิกกับผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี  โดยให้ผู้ป่วยรับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน ติดต่อกัน 7 วัน พบว่า ยาเม็ดจากสมุนไพรเพชรสังฆาตผลงานวิจัยพัฒนาของ วว. รักษาผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวารได้ผลดีเทียบเท่ายาแผนปัจจุบันที่ผลิตในประเทศและยาที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งยังมีราคาถูกกว่าและปลอดภัยต่อผู้ใช้

B1

คุณสมบัติพิเศษ

ได้ทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาเม็ดจากสมุนไพรเพชรสังฆาต โดยนำวัตถุดิบมาแปรรูป ควบคุมคุณภาพสารสำคัญ และศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา โดยความร่วมมือของ รศ.ดร.บังอร ศรีพานิชกุลชัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่า มีฤทธิ์ลดการอักเสบและทำให้หลอดเลือดดำหดตัว พร้อมทั้งยังได้ศึกษากลไกการทำงานของเพชรสังฆาตแปรรูป สำหรับการประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์พบว่า (1.) ไม่พบความเป็นพิษเฉียบพลันทางปาก (Acute Oral Toxicity) (2) ไม่พบความเป็นพิษกึ่งเรื้อรัง (Sub-Chronic toxicity) นอกจากนี้ยังได้ตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวพบว่า ไม่มีการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรค (Bacterial Contamination) ไม่พบปริมาณโลหะหนัก (Heavy Metal Contamination) และไม่พบยาฆ่าแมลง (Pesticide Contamination)

 

สนใจติดต่อ กองการตลาด สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม โทร. 0-2577-9436-38 หรือ Call Center 0-2577-9300 e-mail : marketing_tistr@tistr.or.th

 

ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกสำหรับโคนม  เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของโคนมจากจุลินทรีย์  ที่มีประโยชน์และปลอดภัยสำหรับสัตว์ (Beneficial and friendly microorganisms) ที่แยกมาจากระบบทางเดินอาหารของโคนม ที่มีคุณสมบัติในส่งเสริมสุขภาพของโคนม

c5

 

คุณสมบัติพิเศษ

มีประสิทธิภาพในการยับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น E. coli, Salmonella Typhymurium, Salmonella  enteritidis, Staphylococcus sp. เป็นต้น ช่วยในระบบการย่อยอาหารและดูดซึมอาหาร  และเพิ่มภูมิคุ้มกัน  ทำให้โคนมมีสุขภาพดีเจริญเติบโตที่ดี มีภูมิต้านทานต่อโรคระบบทางเดินอาหาร  และสามารถที่จะให้น้ำนมที่ดีและมีคุณภาพ