นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565 ซึ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 21 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00-19.00 น. ณ อาคาร 9 – 10 อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้ Theme “ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม เพื่อสังคมที่ยั่งยืน” เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยและพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งในประเทศและนานาชาติ ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและอาชีพด้านวิทยาศาสตร์แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยมี ศ.(พิเศษ)ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. พร้อมผู้บริหารหน่วยงาน อว. ร่วมต้อนรับ โอกาสนี้ ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ ทั้งนี้ วว. นำผลงานวิจัยและพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านจุลินทรีย์ วว. ครบวงจร ได้แก่ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ (ICPIM 2) และศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ (ศูนย์จุลินทรีย์ ICPIM 1 และ ALEC) เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรม ภายใต้ Theme TISTR : The Wonders of Microbe World มหัศจรรย์โลกจุลินทรีย์ วว. ณ อาคาร 9 ( 14 ส.ค. 2565 @ อิมแพค เมืองทองธานี)

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับการพัฒนาประเทศ ว่า ปัจจุบันโลกเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งในหลายมุมโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารพลังงาน และสาธารณสุข ซึ่งเป็นอุปสรรคหนึ่งในการพัฒนาประเทศ ให้ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง โลกใบนี้ต้องการความสมานฉันท์ ความร่วมมือ และสันติสุข เพื่อให้เรามีเวลาและสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้กับทุกคน

โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถใช้มันสมอง สองมือ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเอง ลดผลกระทบจากวิกฤตต่าง ๆ ซึ่งความท้าทายเหล่านี้จึงทำให้เราตระหนักชัดเจนถึงผลเสียที่เกิดจากการพัฒนา ที่เน้นแต่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและผลกำไร ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินความพอดี ทำให้เกิดความไร้สมดุลของทุกสิ่ง โดยเฉพาะความสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ในการพัฒนาประเทศจำเป็นที่จะต้องเน้นการเสริมสร้างทัศนคติ ปรับเปลี่ยนชุดความคิดของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ชุมชน และเยาวชน ให้ตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า ควบคู่กับการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

“…จากการเข้าเยี่ยมชมงานในวันนี้ตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็น ได้สัมผัส ได้รู้สึก ตื่นตาตื่นใจที่ได้มีส่วนร่วมในงานวิทยาศาสตร์ซึ่ง อว. ได้จัดครั้งนี้ ทำให้รำลึกถึงสมัยเป็นเด็กประมาณปี พ.ศ. 2505 ก็มีการจัดงานแบบนี้อยู่เป็นประจำ จัดต่อเนื่องและมีการแข่งขันกัน สร้างความตื่นตัวให้กับนักเรียน ทำให้เด็กตั้งใจทำโครงการวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องดีๆในอดีตและต่อเนื่องถึงปี 2518 จวบปัจจุบันที่กระทรวงได้จัดขึ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของด้านวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่องและเดินหน้าจัดกิจกรรมนี้อย่างเข้มแข็ง มั่นใจว่าในการพัฒนาประเทศเราจะมีทรัพยากรสำคัญ มีการส่งเสริม สร้างให้เป็นรูปธรรม เพราะเราลืมตามาก็เป็นวิทยาศาสตร์รอบตัวหมด ผู้ใหญ่เป็นสื่อและแรงจูงใจให้กับเด็กๆ มนุษย์และอวัยวะภายในร่างกายของเราเป็น Wonders of the World คือ ความมหัศจรรย์โดยธรรมชาติ มนุษย์เป็นสิ่งสุดยอดที่สุดต้องดูแลให้ดี วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เป็นวิชาที่จะทำให้เกิดคุณประโยชน์อย่างมหาศาล ซึ่งก็คือ คน มนุษย์ ที่จะคิดสร้างสรรค์ ทำให้ความสำเร็จนั้นๆเป็นรูปธรรม…” นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวสรุป

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. กล่าวว่า งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565 กำหนดจัดขึ้น 2 แห่ง ได้แก่ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จัดขึ้น ณ อาคาร 9-10 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 13 – 21 สิงหาคม 2565 และงาน NST Fair Science Carnival Bangkok ในรูปแบบ Science Carnival จัดขึ้นที่สามย่านมิตรทาวน์ ระหว่างวันที่ 17 – 21 สิงหาคม 2565 เพื่อให้เข้าถึงและครอบคลุมเยาวชนและประชาชนที่สนใจเป็นวงกว้าง โดยมีแนวคิดการนำวิทยาศาสตร์มาสู่เมือง เพื่อเป็นการกระจายความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย และง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มคนในกรุงเทพฯ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือทำให้คนไทยให้หันมาสนใจ ชื่นชอบวิทยาศาสตร์ เปลี่ยนมุมมองว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องสนุก น่าตื่นเต้น น่าเรียนรู้และจับต้องได้
“…การจัดงานมุ่งเน้นนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสานกับศิลปะในมุมของการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ของประเทศ ซึ่งสอดรับกับนโยบาย BCG Model : Bio – Circular – Green Economy สนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยร่วมผนึกกำลังความยิ่งใหญ่กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ และหน่วยงานต่างประเทศ ร่วมถ่ายทอดศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับเยาวชนและประชาชนไทย ….”ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ กล่าว

