กำแพงกันกระสุนด้วยบล็อกประสาน

หนึ่งในผลงานเด่นจากการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ BCG  ของ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม  (อว.)  โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ (ศนว.) ก็คือความเชี่ยวชาญด้าน “บล็อกประสาน” ที่ วว. สั่งสมประสบการณ์และมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  โดยได้ให้บริการที่ปรึกษาการวิจัยแก่ กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม  ภายใต้  “โครงการขยายผลจัดสร้างกำแพงกันกระสุนด้วยบล็อกประสาน เพื่อใช้ในฐานปฏิบัติการพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้”  โดยผลการทดสอบกำแพงกันกระสุนบล็อกประสานพบว่า มีประสิทธิภาพและมีความแข็งแรงกว่าการใช้กระสอบทรายเป็นอย่างมาก อีกทั้งก่อสร้างได้ง่าย สามารถเคลื่อนย้ายได้รวดเร็วด้วยกำลังพลในพื้นที่   มีอายุการใช้งานมากกว่า 10  ปี จากผลการทดสอบสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการนำไปใช้งานจริงในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยกลุ่มผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างให้การยอมรับและมีความต้องการนำไปใช้งานจริงในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

โครงการขยายผลจัดสร้างกำแพงกันกระสุนด้วยบล็อกประสานฯ ที่ วว. ให้บริการที่ปรึกษาวิจัยดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาการใช้งานบังเกอร์กระสอบทราย ที่มีอายุการใช้งานสั้น ไม่ทนแดดทนฝนและเปื่อยยุ่ยในระยะเวลา 3 -4  เดือน จากนั้นต้องเปลี่ยนใหม่  จึงมีแนวคิดจัดหาวัสดุที่คงทน  มีความแข็งแรงสูง  สามารถสร้างและเคลื่อนย้าย ซ่อมแซม ได้รวดเร็ว กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมจึงร่วมมือกับ วว. เพื่อวิจัยแนวทางการพัฒนาการใช้งานบล็อกประสาน ซึ่ง วว. มีความเชี่ยวชาญ สำหรับจัดสร้างกำแพงกันกระสุนเพื่อใช้ในภารกิจทางทหารต่อไป

โดย วว. ได้ร่วมส่งมอบแบบก่อสร้างกำแพงกันกระสุน และตัวอย่างกำแพงกันกระสุนบล็อกประสาน เพื่อใช้ในการฝึกปฏิบัติการทางยุทธวิธี ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับเกียรติจาก พ.อ.อภิชาต วงศ์วัฒนา  ผอ.กองตรวจและทดสอบมาตรฐานทางทหาร  สำนักมาตรฐานทางทหาร  กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม  เป็นผู้รับมอบ  นอกจากนี้ยังได้จัดอบรม “การถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตบล็อกประสานและการก่อสร้างกำแพงกันกระสุนด้วยบล็อกประสาน วว.”  ให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ใช้งาน  พร้อมจัดสร้างกำแพงตัวอย่างเพื่อใช้ในการฝึกปฏิบัติการทางยุทธวิธีและเพื่อการเรียนรู้  ณ ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธี  ค่ายมหาจักรีสิรินธร อ.นาทวี จ.สงขลา  โดยในโครงการนี้นักวิจัย วว. ได้ออกแบบส่วนผสมในการผลิตบล็อกประสานเพื่อให้ได้บล็อกประสานที่มีความแข็งแรงสูงเหมาะสมต่อการจัดสร้างกำแพงกันกระสุน   และได้ออกแบบกำแพงกันกระสุนรูปแบบต่างๆ พร้อมจัดทำแบบก่อสร้างและจัดทำขั้นตอนการก่อสร้างกำแพงกันกระสุน เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานได้จริงด้วยกำลังพลในพื้นที่ จากผลการทดสอบร่วมกับผู้ใช้งานได้รับการยืนยันว่ากำแพงกันกระสุนบล็อกประสาน มีความมั่นคงแข็งแรง และมีความปลอดภัยสูงกว่าการใช้กระสอบทราย

            วว. ประสบผลสำเร็จในการวิจัยและพัฒนา บล็อกประสาน  (Interlocking  Block)  โดยดำเนินการวิจัยพื้นฐานด้านวัสดุมาตั้งแต่ พ.ศ. 2508 ปัจจุบันมุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาประยุกต์การใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ และถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม  

            จุดเด่นบล็อกประสาน วว.

  1. เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการก่อสร้าง ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรไม้และสิ่งแวดล้อม  
  2. ในการผลิตบล็อกประสานจะใช้ดินลูกรังหรือมวลรวมอื่นๆ เช่น ทราย  กรวด  หินฝุ่น เป็นวัตถุดิบหลัก โดยใช้ปูนซีเมนต์เป็นตัวประสาน
  3.  อัดขึ้นรูปด้วยเครื่องอัดกำลังสูง  
  4. บ่มด้วยความชื้นไม่น้อยกว่า 7 วัน จะได้บล็อกประสานที่แข็งแรงสามารถนำไปก่อสร้างอาคารในระบบผนังรับน้ำหนักได้

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เป็นทั้งผนังและโครงสร้างในเวลาเดียวกัน

ดังนั้นการก่อสร้างด้วยระบบบล็อกประสาน  จึงสามารถลดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กได้   นอกจากนั้นบล็อกประสานยังสามารถนำมาดัดแปลงเสริมเหล็ก เพื่อใช้งานเป็นเสา  คาน  บันได  ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของอาคาร

            จุดแข็งของเทคโนโลยีบล็อกประสาน วว.  

1. เน้นใช้วัตถุดิบในพื้นที่ ได้แก่ ดินลูกรัง  ทรายก่อสร้าง  หินฝุ่น  กรวด  เม็ดลูกรัง ที่มีอยู่ทั่วไปในทุกภูมิภาคของประเทศ 

2. เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต  สามารถออกแบบและสร้างขึ้นใช้เองโดยโรงงานและช่างฝีมือในประเทศ  ในกระบวนการผลิตไม่ต้องการเชื้อเพลิง  ไม่ว่าจะเป็น ฟืน  แกลบ  หรือน้ำมัน เพราะบล็อกประสานไม่ต้องผ่านกระบวนการเผา

            3. การใช้พลังงานไฟฟ้าในกระบวนการผลิตค่อนข้างต่ำหรืออาจไม่จำเป็นต้องใช้

4.  ผลิตและก่อสร้างได้ง่าย ไม่ต้องการช่างฝีมือที่ชำนาญการเฉพาะด้าน   

5. อาคารที่สร้างด้วยบล็อกประสาน  สามารถลดการใช้ไม้แบบไม้ค้ำยัน เหล็กเสริม  และคอนกรีต  

            6. ลดค่าก่อสร้างลงไปได้ตั้งแต่ร้อยละ  10 – 20  เมื่อเทียบกับอาคารขนาดและคุณภาพเดียวกันที่ก่อสร้างด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กผนังก่ออิฐฉาบปูน 

           7. ลดระยะเวลาในการก่อสร้างลงได้ร้อยละ 30 –  35  เมื่อเทียบกับอาคารขนาดเดียวกันที่ก่อสร้างด้วยโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กผนังก่ออิฐฉาบปูน 

          8. อาคารบล็อกประสานมีความงามเป็นเอกลักษณ์  สวยงามจากวัสดุธรรมชาติ  ไม่จำเป็นต้องฉาบปูนและทาสี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับบริการเกี่ยวกับบล็อกประสาน วว.  ติดต่อได้ที่ ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมวัสดุ วว.  โทร.  0 2577 9000  โทรสาร 0 2577 9009  อีเมล tistr@tistr.or.th