กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม /วว. ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทยให้ก้าวไกลอย่างภาคภูมิใจในเวทีสากล

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (หรือดีพร้อม : DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สรุปผลสำเร็จและจัดพิธีปิด “กิจกรรมนำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ไปพัฒนาเกษตรแปรรูป” ภายใต้การดำเนิน โครงการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในวันที่ 9 กันยายน 2568 ณ ห้องประชุมเยอบีร่า 2 ชั้น 3 อาคารล็อบบี้ โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แบงคอก

โดยได้รับเกียรติจาก นายบูรณะศักดิ์ มาดหมาย ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผนเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานกล่าวแสดงความยินดีและพิธีปิดกิจกรรมว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาปรับปรุงการบริหารจัดการระบบงานต่างๆ ของสถานประกอบการให้ได้ตามข้อกำหนดของมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป เช่น GMP GHP HACCP ฯลฯ ที่จำเป็นต้องของการรับรอง โดยการประเมินและวินิจฉัยปัญหาของการพัฒนาระบบมาตรฐานโดยผู้เชี่ยวชาญด้านมาตรฐาน และผ่านการอบรมบ่มเพาะองค์ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อความพร้อมในการขอการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

ในปี 2568 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้มีการดำเนินนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อม คอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” เป็นการปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรทันสมัย เฟ้นหาฮีโร่ผู้นำธุรกิจไทย พัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ในพื้นที่ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมดีอยู่คู่ชุมชน ภายใต้กลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ดังนี้

ให้ที่ 1 : ให้ทักษะใหม่ : เพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการ

ให้ที่ 2 : ให้เครื่องมือที่ทันสมัย : เปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมเดิมไปสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจยุคใหม่

ให้ที่ 3 : ให้โอกาสโตไกล : ด้วยการช่วยเหลือวิสาหกิจให้มีขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจและสามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและระดับสากล ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพของ SMEs ให้เข้าถึงโอกาสต่าง ๆ

ให้ที่ 4 : ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน : โดยการนำแนวคิด BCG มาปรับใช้ในธุรกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมด้านการปรับปรุงกระบวนการผลิตและบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว

“…กิจกรรมนี้ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 สิ้นสุดในเดือนกันยายน 2568 โดยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) วิสาหกิจชุมชน ได้รับการพัฒนาและเตรียมความพร้อมสู่การยื่นขอรับรองระบบมาตรฐานสำหรับธุรกิจเกษตรแปรรูป รวมจำนวน ไม่น้อยกว่า 15 กิจการ โดยมีการพัฒนาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านระบบมาตรฐานแก่สถานประกอบการ สามารถผลักดันให้สถานประกอบการมีความพร้อม และได้มีการยื่นขอรับรองมารตฐานจากหน่วยรับรอง (Certification Body) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของสถานประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด ทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสเข้าถึงช่องทางการตลาดได้มากขึ้น ทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ และได้ขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการทั้ง 15 กิจการ ที่ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมฯ และได้รับเกียรติบัตร รวมทั้ง 2 กิจการ ที่ได้รับรางวัลโล่เกียรติคุณเชิดชูเกียรติให้เป็นธุรกิจตัวอย่างด้านการพัฒนามาตรฐานที่ประสบความสำเร็จ (Success Case) ผ่านการดำเนินงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมและ วว. อย่างเป็นรูปธรรม…” นายบูรณะศักดิ์ มาดหมาย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นและบทสรุปจากการจัดกิจกรรม ปีงบประมาณ 2568

ดร.สุภาภรณ์ เลขวัต นักวิจัย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ วว. ในฐานะหัวหน้ากิจกรรม กล่าวสรุปการดำเนินงานว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และ วว. ได้ดำเนินกิจกรรมนำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ไปพัฒนาเกษตรแปรรูปมาอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นในตลอดระยะเวลา 120 วัน โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถานประกอบการทั้ง 15 กิจการที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งประกอบด้วยโมเดลกิจกรรมสำคัญที่เสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการของไทยให้เข้มแข็ง ได้แก่ การถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรพิเศษด้านการตลาดและระบบคุณภาพความปลอดภัย การฝึกอบรมบุคลากร/การประเมินและวินิจฉัย/การให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกของสถานประกอบการ กิจกรรมจัดการเชื่อมโยงเครือข่ายและการสร้างโอกาสทางธุรกิจ จากผู้เชี่ยวชาญการจัดการสินค้าเกษตรแปรรูปจากบริษัทเอกชน รวมถึงการให้คำปรึกษาเรื่องการส่งออกและแหล่งเงินทุน โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และดำเนินการพิจารณาคัดเลือก Success Case ร่วมกับคณะกรรมการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

“…ตลอดระยะเวลาในการดำเนินโครงการ เราได้เรียนรู้ร่วมกันทั้งจากการอบรม การบรรยาย การให้คำปรึกษาเชิงลึก ณ สถานประกอบการ และสถานที่อื่น เช่น สาธารณสุขจังหวัด การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ รวมถึงการได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้เชี่ยวชาญ ทั้งด้านตลาด ระบบคุณภาพ และการส่งออก ซึ่งทุกกิจกรรมล้วนสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่พร้อมจะเติบโตและก้าวไปสู่ระดับสากล สิ่งที่น่าภาคภูมิใจากกิจกรรมครั้งนี้ คือ ความร่วมมือของทุกท่านที่ทำให้โครงการบรรลุผลตามเป้าหมาย ซึ่งมีผู้ประกอบการบางรายที่ได้รับการตรวจประเมินจากหน่วยงานรับรองมาตรฐาน และมีผู้ประกอบการที่มีความพร้อมจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอรับรองมาตรฐานมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้มอบเพียงความรู้ แต่ยังมอบ “โอกาส” ในการต่อยอดธุรกิจ สร้างเครือข่าย และเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการไทยได้ก้าวไปอย่างมั่นใจ โดยการพัฒนาและยกระดับในการดำเนินโครงการครั้งนี้ คาดว่าเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และขอขอบคุณผู้ประกอบการทุกท่านที่ร่วมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยพลังบวกและมิตรภาพ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ประกอบการทุกท่านจะนำสิ่งที่ได้รับไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรง และร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทยให้ก้าวไกลอย่างภาคภูมิใจในเวทีสากล…” ดร.สุภาภรณ์ เลขวัต ในฐานะหัวหน้ากิจกรรม กล่าวสรุป