
ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และคณะผู้บริหาร บุคลากร วว. ร่วมให้การต้อนรับ H.E. Assoc. Prof. Dr. Linkham Douangsavanh รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกสิกรรมและสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) พร้อมด้วย H.E. Ms. Busadee Santipitaks ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat : MRCS) และ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางประสานงานฝ่ายไทยตามกรอบความร่วมมือคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ในโอกาสเข้าร่วมประชุมหารือความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรน้ำ


โดย วว. และ สทนช. ได้ร่วมนำเสนอผลการดำเนินงานเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตชุมชนลุ่มน้ำโขง และแนวทางบริหารจัดการลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ พร้อมมาตรการรับมือฤดูฝน ภายใต้การสานสัมพันธ์ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทย กับ สปป.ลาว ในวันที่ 1 กันยายน 2568 ณ วว. เทคโนธานี คลองห้า จ.ปทุมธานี











ภายหลังการประชุม คณะผู้แทนได้เยี่ยมชม ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย (Algal Excellent Center : ALEC)ของ วว. ซึ่งมีภารกิจดำเนินงานด้านสาหร่ายอย่างครบวงจร ได้แก่ วิจัย พัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี และบริการด้านสาหร่ายน้ำจืดมากกว่า 30 ปี เริ่มตั้งแต่ ต้นน้ำ คือ จัดการคลังสาหร่าย เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ตามเป้าหมายการใช้ประโยชน์ กลางน้ำ คือ ศึกษาสภาพที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงทั้งระดับห้องปฏิบัติการ/กลางแจ้ง และปลายน้ำ คือ วิจัย พัฒนากระบวนการเพาะเลี้ยงระดับกลางแจ้งต้นแบบ ตั้งแต่ขนาด 100-40,000 ลิตร โอกาสนี้คณะผู้แทนได้ชื่นชมความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาสาหร่ายของ วว. ที่มีการต่อยอดจนเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม ทั้งในระดับชุมชนและเชิงพาณิชย์ รวมถึงการขยายผลสู่การบริการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอื่นๆ ของ วว. อย่างเป็นรูปธรรม


อนึ่ง วว. มีความร่วมมือกับ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนในชุมชนลุ่มน้ำโขงทั้ง 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ผ่านการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนการแปรรูปผลผลิตเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะพืชและสัตว์น้ำ อัตลักษณ์ท้องถิ่น เช่น สาหร่ายไก ปลา ส้มโอ และหอมขาว เพื่อสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน

























…………….
📍นำเสนอโดย กองประชาสัมพันธ์ สำนักสื่อสารองค์กร วว.
☎️ 0 2577 9048
📧 E-mail : pr@tistr.or.th
🟩 Line@tistr
🟧 IG : tistr_ig
🟥 YouTube : tistr2506
🟪 TIKTOK : @tistr2506
Facebook page : TISTR
Views: 15