วว. ให้บริการวิจัยพัฒนาผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทดลองตลาดจากน้ำมันไม้กฤษณาตามมาตรฐาน ASEAN Cosmetic GMP

ดร.พงศธร  ประภักรางกูล  รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ   สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  และ นายประพนธ์ กุลไพศาล ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท แอ๊บป้าอินดัสตรีส์ จำกัด  ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงบริการวิจัย เรื่อง การวิจัยพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทดลองตลาดจากน้ำมันไม้กฤษณาตามมาตรฐาน ASEAN Cosmetic GMP  ในการนี้ ผู้บริหาร และบุคลากร ทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นเกียรติและแสดงความยินดี  ในวันที่ 22 สิงหาคม 2568  ณ ห้องประชุม กวท. ชั้น 8 อาคาร RD 1 วว. เทคโนธานี  คลองห้า จังหวัดปทุมธานี

ซึ่ง วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร เป็นแกนหลักในการดำเนินการ สำนักจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมบริหารดำเนินงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมี และดำเนินการทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดน้ำมันหอมระเหยจากไม้กฤษณา  พร้อมศึกษาวิจัยสูตรตำรับเครื่องสำอางในรูปแบบลิปปาล์มและแฮนด์ครีม โดยใช้สารสำคัญเป็นสารสกัดน้ำมันหอมระเหยกฤษณา และการทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ด้วยเนื้อเยื่อจำลองสามมิติ แล้วนำมาผลิตเป็นสินค้าทดลองตลาดต่อไป

นอกจากนั้น วว.  ยังได้นำคณะผู้ประกอบการเข้าเยี่ยมชมภารกิจ ศูนย์บริการนวัตกรรมเวชสำอางแบบครบวงจร (ICOS)  ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของ วว.  ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ ด้วยการให้บริการที่เป็น Total  Solution  เบ็ดเสร็จและครบวงจร  สามารถพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากผู้ประกอบการ  วิสาหกิจชุมชน  วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  (SMEs)  และ Startup  เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจผ่านการวิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรมตามนโยบายของรัฐบาล

 อนึ่ง ไม้กฤษณา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Aquilaria  crassna  Pierre ex Lecomte.  และมีชื่อเรียกทั่วไปว่า  ไม้หอม  พวมพร้าว  จะแน  กายูกาฮู กายูการู  เนื้อไม้ปกติจะมีสีขาวนวล เสี้ยนตรง เนื้อหยาบปานกลาง หากมีน้ำมันสะสมอยู่บ้างเนื้อไม้จะเปลี่ยนสีจากเดิม เป็นสีเหลืองอ่อนๆ และจะมีสีเข้มมากขึ้นตามปริมาณน้ำมันที่สะสมอยู่ในเนื้อไม้  หรือบางครั้งอาจเห็นเป็นจุดเข้มๆ กระจายเป็นแผ่นบางๆ บริเวณผิวไม้ แต่ยังไม่แทรกลึกเข้าไปในเนื้อไม้  หากมีน้ำมันสะสม จะมีกลิ่นหอมซึ่งเกิดจากการที่มีเชื้อราบางชนิดเจริญเข้าไปในเนื้อไม้  ทำให้เนื้อไม้สร้างชันน้ำมัน (oleoresin) เนื้อไม้จึงมีสีเข้มขึ้น  เมื่อหักกิ่งจะมีชันน้ำมันไหลเยิ้มออกมา  มีกลิ่นหอมเฉพาะ รสเผ็ดร้อน และขม  ตามตำรายาไทย  จะนำมาช้ คุมธาตุ บำรุงโลหิตและหัวใจ ทำให้หัวใจชุ่มชื้น ใช้ผสมยาหอม แก้ลมวิงเวียนศีรษะ บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ  บำรุงตับและปอดให้ปกติ เป็นยาอายุวัฒนะ แก้อาเจียน ท้องร่วง แก้ไข้ต่างๆ บำบัดโรคปวดบวมตามข้อ ต้มดื่มแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้เสมหะ โดยนำมาผสมกับยาหอมกิน หรือนำมาต้มน้ำดื่ม กรณีกระหายน้ำมาก

………………..

📍นำเสนอโดย   กองประชาสัมพันธ์   สำนักสื่อสารองค์กร วว.

☎️ โทร. 0 2577 9048

📧 E-mail : pr@tistr.or.th

🟩 Line@tistr

🟧 IG : tistr_ig

🟥 YouTube : tistr2506

🟪 TIKTOK : @tistr2506

Facebook page : TISTR

Views: 1