



ดร.อาภากร สุปัญญา รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์และจัดการนวัตกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในฐานะผู้แทน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย บุคลากร วว. ได้แก่ นายสมนึก ธนานันท์ ช่างเทคนิค กองซ่อมบำรุง และนายอิสริยะ สุวรรณจักร เจ้าหน้าที่การเงินการคลัง กองพัสดุและคลังพัสดุ ร่วมวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันปิยมหาราช เพื่อน้อมรำลึกซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทั้งการเลิกทาสและทรงนำพาประเทศชาติให้ก้าวสู่ความทันสมัย ในด้านสังคม การศึกษา และการคมนาคม ในวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567 ณ ลานพระราชวังดุสิต

อนึ่งวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี รัฐบาลประกาศให้เป็นวันสำคัญของชาติ และกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของรัชกาลที่ 5 พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรไทย
พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 สิริรวมพระชนมายุได้ 58 พรรษา
พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณทั้งในการปกครองบ้านเมือง และพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ประชาชนชาวไทยจึงพร้อมใจกันถวายพระราชสมัญญานามพระองค์ “พระปิยมหาราช” อันมีความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน”

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2396 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 5 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ประสูติแต่ สมเด็จพระเทพศิรินทราพระบรมราชินี

พระราชกรณียกิจสำคัญ
พระองค์ได้เสด็จประพาสต่างประเทศ เพื่อทอดพระเนตรการบริหารบ้านเมืองและวิทยาการสมัยใหม่จากประเทศแถบยุโรป เพื่อนำมาปรับใช้ในการพัฒนาประเทศ จึงเป็นที่มาของพระราชกรณียกิจที่สำคัญหลายด้านของพระองค์ เช่น
การทหารและการปกครองประเทศ ทรงนำแบบอย่างทางทหารของประเทศแถบยุโรปมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย มีการจัดตั้งกรมเสนาธิการทหารบกขึ้นเป็นครั้งแรก และทรงตั้งโรงเรียนนายร้อยทหารบกและทหารเรือ ตลอดจนส่งพระราชโอรสไปศึกษาวิชาการทหารในทวีปยุโรป
การปกครองประเทศ ทรงให้ตราระเบียบการปกครองขึ้นใหม่ แยกหน่วยราชการออกเป็นกรมกองต่าง ๆ จากเดิมมี 6 กระทรวง และได้เพิ่มอีก 4 กระทรวง รวมเป็น 10 กระทรวง ในส่วนภูมิภาคทรงให้จัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลขึ้นเป็นครั้งแรก และให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย
เศรษฐกิจและการคลัง ทรงให้มีการจัดทำงบประมาณแผ่นดินขึ้น โดยทรงให้แยกเงินแผ่นดินและเงินส่วนพระองค์ออกจากกัน และทรงให้จัดตั้งธนาคารขึ้นเป็นครั้งแรก คือ ธนาคารสยามกัมมาจล
การศึกษา ทรงให้ตั้งโรงเรียนหลวงแห่งแรกขึ้นในพระบรมมหาราชวัง จัดการเรียนการสอน แล้วขยายออกไปทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อให้ทั่วถึงประชาชน ทำให้การศึกษาของไทยได้รับการพัฒนา
การต่างประเทศ พระองค์ได้เห็นถึงความสำคัญของการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ ในรัชสมัยของพระองค์จึงมีการส่งเอกอัครราชทูตไปประจำในต่างประเทศเป็นครั้งแรก และพระองค์ยังทรงเสด็จประพาสประเทศต่าง ๆ เพื่อนำวิทยาการสมัยใหม่มาพัฒนาประเทศ
…………………………………………………
📍นำเสนอข่าวโดย กองประชาสัมพันธ์ สำนักสื่อสารองค์กร วว.
☎️ โทร. 0 2577 9048
📧 E-mail : pr@tistr.or.th
🟩 Line@tistr
🟧 IG : tistr_ig
🟥 YouTube : tistr2506
🟪 TIKTOK : @tistr2506