ยุคนี้หลายอาชีพคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานติดต่อกัน หรือแม้กระทั่งอาชีพที่ต้องนั่งประจำโต๊ะทำงานนานๆ ก็มีความเสี่ยงได้พอๆ กัน เพราะการนั่งประจำอยู่กับที่เป็นเวลานานโดยไม่มีการปรับอริยาบถ และการเร่งทำงานอย่างเคร่งเครียดนั้นเป็นที่มาของโรคภัยไข้เจ็บอย่างคาดไม่ถึง ยิ่งผู้ที่มีอายุย่างเข้าสู่วัย 40 ด้วยแล้ว อาจมีความเสี่ยงของโรคสูงกว่าปกติ
โรคใดบ้างที่คนทำงานออฟฟิตพึงระวัง
การนั่งทำงานจนเพลิน หรือคิดว่าอีกนิดค่อยไปเข้าห้องน้ำ หรือเพราะไม่อยากเดินไกล หรือด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ นั่นแสดงว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพราะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งโรคนี้มักจะเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทางท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบ โดยพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
โรคนี้มักมากับความเครียด และหากบุคคลในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคนี้ คุณก็มีโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่า โดยมากมักเกิดขึ้นกันผู้ที่อยู่ในวัย 40 ขึ้นไป แต่ปัจจุบัน ด้วยรูปแบบการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวันของคนวัยทำงานเปลี่ยนไปต้องอยู่กับความเร่งรีบ ความเครียด ขาดการออกกำลังกาย และการบริโภคแบบเร่งด่วนและไม่ถูกหลักโภชนาการก็ยิ่งมีผลให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคอื่นๆ ตามมา ก่อนวัยอันควร
อาการกรดไหลย้อนนั้น เป็นผลพวงมาจากความเร่งรีบในการรับประทานอาหาร การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ทานอาหารผิดเวลา หรืออาจมาจากความเครียด และมีความเสี่ยงสูงขึ้นในกลุ่มคนที่ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่จัด
การนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน รวมไปถึงการนั่งโต๊ะทำงานหรือนั่งอ่านตำรา ดูจะเป็นสาเหตุหลักของหลายๆ คนในวัยทำงานที่มีอาการนี้ การทำงานที่ดีจึงควรพักเป็นระยะเพื่อสำรวจท่านั่งทำงานของตนว่าเป็นท่านั่งที่เหมาะสมหรือไม่ หากปวดเมื่อยควรลุกขึ้นเพื่อผ่อนคลายอริยาบถ ลุกเดินเพื่อคลายเส้นคลายกล้ามเนื้อก่อนกลับมานั่งทำงานต่อเพื่อถนอมสุขภาพร่างกาย ส่วนสาวๆที่ชอบใส่รองเท้าส้นสูงมากๆ ก็เป็นอีกสาเหตุของอาการปวดหลังได้เช่นกัน
แทบจะเป็นโรคฮิตของคนทำงานออฟิตกันก็ว่าได้ หากคุณรู้สึกปวดบ่า ต้นคอ และบริเวณขมับมากๆ เวลาคุณต้องใช้ความคิดหนักๆ นั่นคือสัญญาณของโรคนี้ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด และฮอร์โมน อุณหภูมิ แสงแดด ล้วนแต่มีผลต่อการเกิดไม่เกรนด้วยกันทั้งสิ้น
การจับเม้าส์หรือพิมพ์คีบอร์ดเป็นเวลานาน มีผลต่อการอักเสบของปลอกหุ้มเอ็นข้อมือ รวมถึงเส้นเอ็นนิ้วมือ บางคนเป็นหนักถึงขั้นนิ้วล็อค
เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในชีวิตประจำวันมากขึ้น แทบทุกออฟฟิตคงเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องนำคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เข้ามาใช้ ซึ่งโดยมากต้องใช้สายตาในการจดจ้องมองจอภาพขณะทำงาน ฉนันผู้ทำงานต้องเตือนตัวเองเสมอ อย่าลืมที่จะพักสายตาทุก 30 นาที หรือ 1 ชม. เพื่อให้สายตาได้ปรับระยะการมอง หากรู้สึกตาแห้งควรพักทันทีหรือพบแพทย์เพื่อปรึกษาการใช้น้ำตาเทียม
นอกจากการมองจอโดยตรงแล้ว การใช้มือสัมผัสตาก็เป็นที่มาของโรคได้เช่นกัน พึงระลึกเสมอว่าคีย์บอร์ดและเม้าส์คือแหล่งรวมเชื้อโรค ซึ่งเคยมีผลวิจัยในต่างประเทศออกมาแล้วว่าสกปรกเสียยิ่งกว่าห้องน้ำ
อ้วน!!! สาวๆ คงไม่อยากได้ยินคำนี้ รวมถึงผู้ชายที่รักษารูปร่าง แต่การด้วยวัยทำงานที่ต้องอยู่กับความเร่งรีบ การเลือกเมนูอาหารไม่ได้มาก ต้องอาหารจานด่วน และรีบทานเป็นประจำก็เป็นสาเหตุของความอ้วนและการขาดสารอาหารได้เช่นกัน และหากขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยแล้ว โรคภัยอื่นๆ ก็จะตามกันมารุมเร้าคนวัยทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
นอกจากโรคที่กล่าวมา กลุ่มคนวัยทำงานยังอาจมีความเสี่ยงกับอีกหลายโรค เมื่อการดำเนินชีวิตในสังคมทำงานทุกวันนี้ ต้องแข่งขันกับเวลา อยู่กับปัญหาความเครียด และต้องใช้งานเครื่องมืออุปกรณ์เทคโนโลยีอย่างเลี่ยงไม่ได้ เราจึงควรหาทางผ่อนคลายและสำรวจตัวเองอยู่เสมอ เพราะร่างกายและสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าหากเจ็บปวยทรุดโทรมหนักก็ยากต่อซ่อมแซมไม่ได้
ทิ้งท้ายด้วยคลิปดีจากหมอชาวบ้าน…. การบริหารสมองเป็น 2 เท่า
การบริหารสมองเป็น 2 เท่า
และคลิปของฝากจาก หมอออร์โธฯ เกี๋ยวกับการนั่งทำงานกับคอมพิวเตอร์ มีประโยชน์มาก ป้องกันอาการปวดหลัง ที่แชร์กันอย่างแพร่หลายใน Facebook ค่ะ
Vodafone: Power to you