มะขามแขก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : | Cassia angustifolia Vahl.Cassia acutifolia Delile |
วงศ์ : | Caesalpiniaceae |
ชื่ออังกฤษ : | India senna, Tinnevelly senna และAlexandria senna, Nubia senna |
ชื่อท้องถิ่น : | – |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง 0.5-1.5 เมตร ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อย ใหญ่และยาวกว่าใบมะขามเล็กน้อย รูปใบยาวปลายใบแหลมสีเขียวอ่อนกว้างประมาณ 0.7-1 ซม. ดอก ใหญ่สีเหลืองสวย เป็นช่อ บานจากล่างไปบน ผล เป็นฝัก แบน บาง โค้งเล็กน้อย ฝักอ่อนสีเขียวแก่จัดสีน้ำตาล เมล็ดแบน ฝักมี 6-12 เมล็ด
ส่วนที่ใช้และสรรพคุณ :
ใบ และ ฝัก มะขามแขกเป็นยาระบาย รักษาคนไข้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากลำไส้ใหญ่ไม่เคลื่อนไหว
แก้อาการท้องผูก
ใบที่เก็บก่อนมีดอก ตากแห้ง 3-10 กรัม หรือฝักแห้ง 2 กรัม (4-5 ฝัก) ชงน้ำร้อนทิ้งไว้ 10 นาที ดื่มก่อนนอน
สารสำคัญ :
ฝักและใบมะขามแขกมีสารสำคัญ เป็นสารจำพวกแอนทราควิโนนส์หลายชนิด ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ได้แก่ sennoside A B C และ D, emodin, rhein สารประกอบอื่น เช่น chrysophanol, kaempferol และ essential oil
ข้อควรระวัง :
- เมื่อรับประทานแล้วมักเกิดอาการไซ้ท้อง อาจช่วยบรรเทาได้โดยรับประทานสมุนไพรขับลมร่วมด้วย เช่น กระวาน กานพลู ขิง อบเชย เพื่อบรรเทาอาการไซ้ท้อง และฝักมะขามแขกจะมีน้ำตาลสูงกว่าในใบทำให้อาการไซ้ท้องลดลง
- สตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร สตรีที่มีประจำเดือน และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ห้ามรับประทาน
- ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะจะเกิดความเคยชินกับยา ถ้าไม่ใช้จะไม่ถ่าย พบว่ามีการทำลายระบบประสาทที่ควบคุมการบีบตัวของลำไส้
- ถ้าใช้นานจะทำให้ขาดโพแทสเซียม ถ้าจำเป็นต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรรับประทานโพแทสเซียมด้วย
Leave a Reply