ค่ายวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
โรงเรียนเทพศิรินทร์

วันที่ 4-6 ธันวาคม 2553

กลุ่มที่ 1-2

ป่ากว้างใหญ่ไพรศาล   นกขับขานบินทั่วป่า
ณ เขาสะแกราช   แหล่งศึกษาสวยอย่างศิลป์
กรุงเทพฯมีนักเรียน   จากโรงเรียนเทพศิรินทร์
ย้ายมานอนนับหิน   มาอยู่กินเรียนและสอบ
ขอขอบคุณ และขอบคุณ   ขอขอบคุณคุณขอขอบ
ขอบคุณขอบขันขอบคอ   ขอบนั่นหนอไม่ใช่กลาง
ขอบคุณสะแกราช   นราธิวาสปัตตานี
ยะลาสระบุรี   เนื้อนมดีพี่ ๆ ๆ ดัง

 

กลุ่มที่ 3-4

จากเด็กเกรียณตัวน้อยที่คอยรอ   ที่หน้าหม้อโง่เขลาสุดใจหมาย
ทั้งดื้อดึงติงต๊องสุดใจกาย   ร่วมมั่นหมายรอคอยที่จะมา
จากเมืองกรุงทุ่งหญ้าถึงป่าเขา   จากถิ่นเราถึงถิ่นของปักษา
นั่งล้อพี่ล้อน้องทั้งทางมา   ทั้งล้อตา ล้ออากงแสนสุดมันส์
พอถึงถิ่นวิ่งลี่เข้าที่พัก   แล้วรีบซักกองไพ่จากกระเป๋า
บ้างส่องหญิงบ้างเล่นไพ่ที่บ้านเรา   บ้างก็เอาการ์ตูนมาอ่านกัน
พอเรียกรวมเข้าสวมกันสุด ๆ   แล้วยังหยุดกินน้ำในกระเป๋า
ยังไม่พอยังล้อกันสุดเมา   พี่เจเอาท่อนไม้ปากระบาน
พอประชุมพี่อิสแป๊กสุด ๆ   ยังไม่หยุดปล่อยมุกไร้หรรษา
ทั้งพี่บอยก็ปิ๊งสาวที่มา   อยากจะบ้าพี่มาแย่งทำไม
พอเดินทางแสนไกลไกลสุดคิด   วิปริตจิตตกพกกระเป๋า
พอเอาเข้าถือไปนักตัวเรา   สุดไง่เขลาเอาไปไมวะกรู
ถึงคืนนี้คือคืนที่ผมแต่ง   อยากจะแบ่งความรู้สึกอันล้นหลาย
อยากขอบคุณเราจึงยืนเรียงราย   เอยคำหมายขอขอบคุณครับคุณครู

 

กลุ่มที่ 5-6

สักวาหน้าหนาวราววันพ่อ   เด็กเทพก็เหมือนอยากมาอย่างสุขสันต์
เริ่มจากสนามบาสมารวมกัน   รอสักวันฉันจะได้ไปซักที
ขึ้นรถบัสด้วยจิตไร้ความทุกข์   เต็มด้วยสุขสำราญช่างสุขี
นานๆไปเริ่มเบื่อเซ็งเต็มที   จึงเริ่มมีอกุศลปนจิตใจ
เมื่อเจ้ามือเริ่มตกลงว่า 5 บาท   ใครจึงสาดออกไปจากวงไพ่
พร้อมกันแล้วก็รีบ ๆ จัดกันไป   มีสุขใดในโลกนี้ดีกว่าเงิน
สะแกราชวาดฝันว่าสวยหรู   แต่มาดูธรรมชาติช่างน่าเมิน
แสนแสบสุดกิจกรรมมีแต่เดิน   วิ่งลงเนินหัวแทบคว่ำคะมำลง
สิ่งแรกที่ประทับใจที่ได้พบ   ต้องประสบน้ำเย็นจิตใจหลง
ไม่เจอเครื่องทำน้ำอุ่นถึงกับงง   เราก็คงอาบไปแบบเย็นชา
สิ่งที่สองอยากจะบอกเรื่องอาหาร   ภาคอีสานประจำถิ่นที่เขาว่า
เป็นสุดยอดอาหารเนิ่นนานมา   จำนำมาให้เราสุขสำราญ
อยู่ๆไปรู้สึกเริ่มชอบป่า   พงพนาไพเราะเสนาะหู
กินไก่ย่างส้มตำวิญญาณปู   และน้องหมูน้ำตกอร่อยดี
ปิ้งข้าวจี่เหมือนกับจะเผาป่า   แล้วก็มาดูดาวเห็นกะหัง
สวรรค์เบี่ยงเหมือนจะพัง   นั่งหน้าตั้งตัวเหม็นไม่นอนเอย

 

กลุ่มที่ 7-8

ถึงโคราชเข้าวัดหลวงปูโต   เป็นสิบโลซัดราดหน้าไปมากหลาย
กินเป็นถังหน้าดานยังกะควาย   ล้มละลายกันพอดีสรพงศ์
พอบ่ายสองก็ถึงสะแกราช   บรรยากาศน่าหลับชวนเคลิ้มหลง
ยิ่งมืดค่ำอากาศก็เย็นลง   อยู่ในดงดูแมลงและดูดาว
ตกกลางคืนวันแรกก็เกิดเรื่อง   เมื่อโรเปลืองผ้าขี้เห็นแล้วหนาว
เมื่อนั่งลงโถส้วมแล้วยิ่งยาว   โรนั่งหนาวนั่งขี้สบายใจ
โรออกมาหน้าเครียดซีเรียสหนัก   ทำเป็นผลักประตูแล้วหนีหาย
เพื่อนๆงงเข้าไปดูใจแทบวาย   ขี้กระจายเต็มโถโอ้หลั่นล้า
ตื่นขึ้นมาตอนเช้าหนาวไข่หด   ใครแอบตดรู้ทันทีมีควันหนา
ดื่มกาแฟโอวัลตินและน้ำชา   เสร็จแล้วพาเดินไปนกกัน
ไปเดินป่าหาความรู้ทำข้อสอบ   เดินจนหอบ 4 กิโลในไพสัณฑ์
แต่โชคดีมีส้มตำให้กินกัน   อิ่มแล้วพลันเดินกลับขาลากดิน
ถึงตอนนี้อยากอาบน้ำและนอนหลับ   พี่ก็จับผมมานั่งทำงานศิลป์
อยากจะบอกผมไม่ใช่ศิลปิน   โคตรจะหินทำสี่งานวันเดียวเอย

 

กลุ่มที่ 9-10

ถึงสะแกราสะแกสะแกราช   โรคระบาดเต็มไปหมดทนไม่ไหว
ถ้านุ่งน้อยห่มน้อยจะบรรลัย   ซวยแล้วไงที่พูดไปผมล้อเล่น
นอนดูดาวนอนนานตาเริ่มตก   กลิ่นซกมกส้นตีนใครมองไม่เห็น
โอ้ชีวิตแสนลำบากแสนลำเค็ญ   ตีนโคตรเหม็นทนไม่ไหวย้ายที่นอน
วันที่ 2 ปลุกเรามากินอะไร   โอวันไตโอวัลตินกินแล้วหอน
โคตรง่วงนอนต้องไปดูตัวมีหงอน   ดูแล้วหลอนน่าเหมือนไก่แต่เป็นนก
ดูไก่เสร็จก็กินข้าวแล้วเดินป่า   เดินไปมาจนไปถึงต้นกระบก
เดินมาเหนื่อยนั่งหิวเลยนั่งจก   ใครทำหกก็ไม่รู้หนูโดนด่า
พอตอนยายเรียกมาทำผ้าเช็ดหน้า   แทบจะบ้าเช็ดไม่ได้ทำทำไม
มีของกินอร่อยดีไม่ไปไหน   ถึงโดนไล่ก็ไม่ไปหนูหน้าด้าน
เรากินเสร็จมาประชุมฟังมุกแป๊ก   ไอคอกแคกเล่นอยู่ได้มาตั้งนาน
แต่ขอโทษมุขพี่โคตรกันดาน   พี่อย่าพาลที่พูดมาผมล้อเล่น
พี่สั่งงานให้แต่เพลงและแต่กลอน   ยังไม่วอนแต่งละครแสนลำเค็ญ
ใครมาเห็นคงคิดว่าแสนยากเย็น   ขอขอบคุณ 7 บทแล้วลงนอน