ค่ายวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม

สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช
โรงเรียนนครนายกวิทยาคม

วันที่ 12-14 กรกฎาคม 2554

กลุ่มที่ 1

สุดท้ายค่ายนี้ทำอะไร  ยิ่งฉันเดินเข้าป่ามากแค่ไหน  ยิ่งเดินยิ่งแทบขาดใจ
ฉันเคยมั่นใจว่าฉันนั้นรู้ดี เข้าค่ายปีนี้คงจะสบาย คิดไว้แล้วเตรียมตัวมาพอ
คิดว่าพร้อมจึงปล่อยมันไป ขี้ผึ้ง โลชั่น และวาสลีนที่มี และในที่สุดเมื่อเหงื่อนั้นเริ่มมา
ทุกอย่างวันนี้มันเลยได้สอนฉันใหม่  หาไก่แค่ไหนก้ไม่มีทาง  ใช้กล้องส่องมันยังน้อยไป
ให้ท่าอะไรคงหาไม่เจอ สุดท้ายฉันไม่เห็นอะไร ฉันได้แต่ทบทวนว่าทำไม
ชีวิตถึงเป็นอย่างนี้ แค่อยากจะรู้ไก่นั้นหายไปไหน ยิ่งฉันเดินหามันมากเท่าไร
ยิ่งเดินยิ่งแทบขาดใจ (ไม่เจอจริงจริง)

กลุ่มที่  2

รู้ก็ไม่รู้ว่าค่ายเป็นไง  และมันก็ไม่คิดว่าฉันต้องไป
คงไม่มีทางจะหนีไปได้ ก็เรานั้นโดนบังคับ
ทำได้แค่เพียงปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครองไปวัน ๆ  ฉันเข้าใจ
แต่ฉันก็ไม่รู้ เพราะโดนบังคับ  หรือว่าอันที่จริงฉันนั้นเต็มใจ
เวลาที่ใบนั้นมาใกล้ ๆ ก็ยังเผลอไปอ่านมัน  รู้ทั้งรู้ว่าคงไม่มีทางเมื่อโดนบังคับ
ไม่อยากจะมาก็ต้องมา  ฉันคอยบอกตัวเอง
ฉันคอยปลอบใจตัวเอง แต่ทำใจไม่ได้
ไม่อยากจะสนใจ ก็รู้ว่าไม่มีทาง
และก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร ช่วยบอกได้ไหมครู

กลุ่มที่  3

ไปเที่ยวกันไหม  จะไปก็รีบไป  ไปกับพี่แล้วสบาย  เด๋วพี่พาไปเดินป่า
ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า
คุณพี่ชอบไปเดินป่า ส่วนตัวน้องนั้นไปเดินสยาม ดูพี่โตโน่ ตูมตาม
จะมัวแหกตานั่งดูทำไม...พี่อี๊ดน้องสนใจไหม ฮึ้ย! สะแกราชน้องสนใจไหม
ไก่ฟ้ากินปลวกอยากให้น้องดูอ่า!
พี่ชอบให้ไก่ตีเด็ก เฮ้ย! พี่ชอบให้เด็กตีไก่ เฮ้ย!
ตีไก่มาตั้งแต่เด็ก ให้ความสำเร็จทางด้านการเงิน สยาม เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ไม่เอ้า ไม่เอา พี่สะบัดกินใส่
ถ้าเป็นป่านะพี่ยอมตาย ถ้าเป็นป่านะพี่ยอมตาย ก่อนไปตายครั้งใดก้องได้เดินป่า
ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า ป่า

กลุ่มที่  4

แหกตามาแต่เช้า  นั่งซึมเซาหน้าโรงเรียน
ตอนนั่งนั่งทับเสี้ยน โอ้ช่างเกรียนหนอพวกเรา
ระรถนั้นโครตช้า
พอถึงสะแกราช พอมองปราดเห็นภูเขา
โชคดีจังพวกเรา หลังจากเม้ากันมานาน
สักพักเสียงแจ๋นแร๋น  ก็ดังแล่นพร้อมเสียงขาน
เร็ว ๆ อย่างหย่อนยาน ใช้วิชามารโกยทันที
โอ้พบบุคคลแรก  ช่างหน้าแปลกแทบวิ่งหนี
ดุจดั่งปานน้องนี ทั้งชีวีไม่เคยเจอ
นั่ง ๆ ไปรู้สึกร้อน พอมองร้องเอะเอ้อเหอ
ไม่ใช่ใครนะเออ ข้าง ๆ เธองิ้ง ๆ ไง

กลุ่มที่  5

มาเข้าค่ายสะแกราชในครั้งนี้  ตื่นตีสี่ตีห้าน่าสุขสันต์
ช่างลำบากยากเข็ญรำพึงรำพัน ตลอดวันตลอดเวย์ว่าเหนื่อยใจ
ตื่นตีห้าเขาพาไปดูนก สัปหงกเดินเอื่ย ๆ เรื่อย ๆ ไป
เจอนกเขาบอกว่า "นั่นไง" เรามองไซร้หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ
พอสายมาก็ออกเดินทางไกล เดิน ๆ ไปเอจต้นไม้ใหย่เบ้อเร่อ
แต่ว่าพวกเรานั้นดันมองเหม่อ ก็เลยเผลอเดินสะดุดหยุดไม่ทัน
จากนั้นมาเย็นสภาพอันสกปรก โสโครกตัวเหม็นผมเน่ามัน
พอกลับมาไม่อาบน้ำเรายืนยัน พร้อมใจกันกลับมาเปลี่ยนชุดเลย
ต่อจากนั้นเขาเรียกไปลานนัดพบ นึกในใจเราเหมือนศพแต่ก่อนเลย
พี่เขาว่ามีงานให้ชมเชย พี่เปรียบเปรยแล้วน้องจึงมาทำ
งานแรกนั้นย้อมผ้าเชาว่าหนุก กลิ่นขี้อ้ายทำคนทุกข์สุดระกำ
มีเพื่อนเราบางคนเขาเล่นขำ โดยการนำผ้าขี้อ้ายให้เพื่อนดม
งานต่อมาพี่เขาว่าให้วาดภาพ  แต่งกลอนกาพย์แต่งเพลงอย่างขมขื่น
กว่าจะเสร็จคนในกลุ่มแทบเป็นลม  แต่ก็สมกับการสามัคคีเอย

กลุ่มที่  6

สถานีวิจัยสะแกราช  ธรรมชาติร่มเย็นเป็นวิสัย
ทั้งเสียงนกเสียงจิ้งหรีดร้องเรไร  บ่งบอกในธรรมชาติที่สมบูรณ์
กิจกรรมหลากหลายที่พี่จัด เช่นการวัดต้นไม้ภายในศูนย์
ทั้งดูดาว ดูสัตว์ ผสมปูน ทุกอย่างต่างเพิ่มพูนประสบการณ์
หลากหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากบอก จากภายนอกภายในแต่ไม่หวญ
อยากตะโกนออกมากก้ไม่ปาน คือขอบคุณพี่ทุกคนอย่างจริงใจ

กลุ่มที่  7

เรามาอบรมที่สะแกราช  พวกเราพลาดขาดเรียนตั้ง 3 วัน
เดินทางมาโคตรไกลแต่ก็มัน ทุกคนนั้นสุดจะเหนื่อยและเมื่อยล้า
พอมาถึง ณ ที่ค่ายก็เริ่มบ้า ม่แต่ป่า ป่า ป่า และก๋ป่า
วิทยากรคนสวยก็เข้ามา พาเข้าดูไก่ฟ้าพญาลอ
ยามค่ำคืนมืดมิดอาทิตย์สงบ ไก่และกบร้องดังลั่นอยู่ในกอ
ลุงจำลอง ลุงปุ๊ แสนสุดหล่อ เราเฝ้ารอที่จากลับมาสะแกราช

กลุ่มที่  8

วันที่สิบสองเดือน ก.ค. ห้าสิบสี่  พวกเรานี้เดินทางถึงโคราช
เข้ามาสู่ดินแดนธรรมชาติ สะแกราชเมืองแห่งป่าบ้านของเรา
วันแรกนั่งเฝ้าไก่ฟ้าพญาลอ  มานั่งหงอแต่ก้ไม่เห็นเงา
ตกกลางคืนได้เวลามานั่งเผา มาก่อเตาปิ้งข้าวจี่ กินกันหนอ
รุ่งเช้าก็รีบตื่นมาดูนก  ทางไม่รกและเพื่อน ๆ ก็เดินรอ
เห็นผลไม้ป่าหลากหลายนั่งลงสอ  น้ำตาคลอกินไม่ได้เสียใจจัง